ครอบครัว ‘ดีเจเตเต้’ รับศพกลับกาญจน์ เปิดใจสุดกังวลความปลอดภัย หวั่นผู้ก่อเหตุมีอิทธิพล
กาญจนบุรี – วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ญาติของ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูกอุ้มหายตัวไป ได้เดินทางเข้าติดต่อเพื่อขอรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากพบร่างไร้วิญญาณในสภาพถูกมัดมือไพล่หลัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายแห่งในพื้นที่บ้านทุ่งนานางหรอก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ภายหลังรับศพ ทางญาติของดีเจเตเต้ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกและข้อกังวลใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากตามที่ปรากฏในข่าว กลุ่มผู้ก่อเหตุมีอิทธิพลในพื้นที่ และบางรายถูกระบุว่าเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดที่มีเครือข่ายกว้างขวาง ซึ่งอาจสามารถเดินทางไปมาในพื้นที่ได้อย่างอิสระ หรือแม้กระทั่งออกนอกประเทศได้
ญาติได้แจ้งความกังวลนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีแล้ว พร้อมย้ำว่า ทางครอบครัวไม่ได้ต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ นอกจากการขอร้องว่า “ขออย่ามาทำร้ายครอบครัว เพราะมีความกังวลใจในเรื่องนี้มาก”
ญาติได้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเลี้ยงดูเตเต้มาตั้งแต่เด็ก มีความผูกพันเหมือนลูก ดีเจเตเต้เองก็ผูกพันและเปรียบตนเหมือนพ่อคนที่สอง เขาเป็นคนหัวอ่อน ไม่เคยก้าวร้าว หรือมีเรื่องชกต่อยกับใคร แม้บางครั้งอาจมีดื้อเงียบบ้าง แต่ไม่เคยทำให้คนในครอบครัวต้องเป็นห่วง การจากไปก่อนวัยอันควรครั้งนี้สร้างความเสียใจอย่างที่สุด
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวของดีเจเตเต้ ญาติยืนยันว่า ตลอดมาตนรู้จักเพียงหญิงสาวคนสนิทคนที่ปรากฏในข่าวเท่านั้น ส่วนอีกสองคนที่ถูกกล่าวถึง ตนไม่เคยทราบมาก่อน
ญาติยังได้เล่าถึงความทรงจำสุดท้ายที่ยังคงติดอยู่ในใจ คือเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (ก่อนเกิดเหตุ) ดีเจเตเต้ได้โทรศัพท์มาบอกรักเหมือนพ่อ ซึ่งทำให้ตนตื้นตันใจมาก และเมื่อมีเรื่องที่ไม่สบายใจหรือไม่สามารถบอกพ่อแท้ๆ ได้ ดีเจเตเต้ก็จะมาปรึกษาตนเสมอ ยกเว้นเรื่องส่วนตัวมากๆ ที่จะไม่ค่อยเล่าให้ฟังเพราะเกรงใจที่เห็นว่างานยุ่ง
นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 7-8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดีเจเตเต้ยังได้เดินทางมานอนพักที่บ้านของตน ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ และไม่ได้เล่าปัญหาอะไรให้ฟัง มีเพียงการซื้อของมาฝากตามปกติ ซึ่งเป็นนิสัยที่ทำให้เขาเป็นที่รักของคนในครอบครัว
สำหรับเหตุการณ์โหดเหี้ยมที่เกิดขึ้น ญาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ทั้งหมด และขอให้ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพราะมองว่าไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากอะไร ก็ไม่น่าจะต้องลงมือทำร้ายกันอย่างโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้ ถือเป็นเหตุอุกอาจที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ร่างของนายวราพงษ์ หรือ ดีเจเตเต้ จะถูกนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนองกระทุ่ม ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขามีความผูกพันกับย่ามากตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เขารักและผูกพันมากที่สุด