ผู้ปกครองเดือด! ไม่ให้อภัย ผอ. สั่งเด็กเชิญธงตากฝน คืนเงินบี้เด้งจากพื้นที่ ขู่ย้ายลูกหนีทั้งโรงเรียน
ชุมพร – กรณีดราม่า ผอ.โรงเรียนบ้านหินกบ จ.ชุมพร สั่งเด็กนักเรียนเชิญธงชาติกลางสายฝนและฟ้าคะนอง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดกลุ่มผู้ปกครองกว่า 100 คน รวมตัวประท้วงเรียกร้องให้ ผอ.เขต สั่งย้าย ผอ. คนดังกล่าวออกนอกพื้นที่ทันที พร้อมคืนเงินและกระเช้าที่ ผอ. นำมามอบให้ ยืนยันไม่ให้อภัย ชี้การบริหารมีปัญหาหลายด้าน หากไม่ย้าย จะย้ายลูกหลานออกจากโรงเรียนแทน
จากเหตุการณ์ที่คลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นภาพเด็กนักเรียนชาย 1 คน กำลังชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและมีเสียงฟ้าลั่น ขณะที่เด็กนักเรียนหญิง 2 คน ยืนกางร่มให้อยู่ข้าง ๆ และมีนักการภารโรงนำร่มมาช่วยกางให้อีกคัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร ในช่วงเช้าของวันเปิดภาคเรียนแรก วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 และต่อมาทราบว่าเป็นคำสั่งของผู้อำนวยการโรงเรียน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ปกครองและประชาชนทั่วไปอย่างมาก
ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.จีราพร สงวนชาติ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหินกบ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดในการตัดสินใจที่ให้นักเรียนออกไปเชิญธงชาติในสภาพอากาศเช่นนั้น โดยระบุว่าต้องการให้ทุกอย่างเรียบร้อยในวันเปิดเทอมวันแรก แม้จะมีผู้กางร่มให้และนักเรียนอยู่ในสายตาตลอด แต่ก็เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง พร้อมกันนี้ยังได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบกระเช้าพร้อมซองเงินให้กับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน เพื่อแสดงความเสียใจและขอโทษ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านหินกบ กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันที่อาคารอเนกประสงค์ภายในโรงเรียน เพื่อแสดงจุดยืนและยื่นข้อเรียกร้องต่อ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ซึ่งเดินทางมารับฟังปัญหาด้วยตนเอง
ตัวแทนผู้ปกครองได้แสดงความคิดเห็นและสะท้อนปัญหาการบริหารงานของ น.ส.จีราพร สงวนชาติ ผู้อำนวยการโรงเรียนตลอดช่วงหนึ่งเทอมที่ผ่านมา นอกเหนือจากประเด็นการสั่งเด็กเชิญธงชาติกลางสายฝน ซึ่งผู้ปกครองระบุว่า มีคุณครูพยายามทักท้วงแล้วถึงความอันตรายจากฟ้าผ่าและความเสี่ยงที่เด็กจะป่วย แต่ ผอ. กลับยืนกรานให้ดำเนินการต่อ โดยอ้างว่าเกรงจะถูก ผอ.เขต ตำหนิ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับบุคลากรชั้นผู้น้อยในโรงเรียน และมีพฤติกรรมที่ผู้ปกครองมองว่าเป็นการกดดันให้ทำตามคำสั่งโดยเน้นความถูกใจส่วนตัวมากกว่าความถูกต้อง
จุดยืนที่ชัดเจนของผู้ปกครองในครั้งนี้คือ การไม่ให้อภัยกับการกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นความปลอดภัยของเด็กนักเรียน โดยผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คนที่ถูกสั่งให้ไปเชิญธงชาติในวันเกิดเหตุ ได้นำกระเช้าและเงินจำนวน 1,000 บาท ที่ผู้อำนวยการนำมามอบให้ก่อนหน้านี้ มาคืนให้กับผู้อำนวยการเขต เพื่อสื่อสารว่าพวกเขาไม่รับและไม่ให้อภัย
ผู้ปกครองทุกคนยืนกรานในข้อเรียกร้องหลักให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 สั่งย้าย น.ส.จีราพร สงวนชาติ ออกจากพื้นที่โรงเรียนบ้านหินกบทันที พร้อมประกาศว่า หากข้อเรียกร้องไม่เป็นผล และไม่มีการย้ายผู้อำนวยการคนดังกล่าวออกไป พวกเขาจะพร้อมใจกันย้ายบุตรหลานออกจากโรงเรียนไปเรียนที่อื่นแทน โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ก็มีผู้ปกครองบางส่วนที่ย้ายลูกหลานออกไปแล้ว 10 คน เนื่องจากปัญหาการบริหารงานของผู้บริหารคนนี้ และคาดว่าจะมีอีกจำนวนมากที่จะย้ายตามไป
นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังได้ขอความเป็นธรรมและให้กำลังใจคุณครูที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งผู้ปกครองมองว่าเป็นการกระทำที่น่ายกย่อง เพราะครูต้องการปกป้องความปลอดภัยของเด็กนักเรียน และขอให้ ผอ.เขต ดูแลเรื่องนี้ด้วย เพื่อไม่ให้คุณครูท่านนั้นถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายบริหาร
ด้าน ดร.ศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 กล่าวภายหลังรับฟังปัญหาจากผู้ปกครองว่า ได้รับทราบข้อเรียกร้องทั้งหมดแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเสมอภาค ยืนยันว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด และปัญหาจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน ขอให้ผู้ปกครองสบายใจได้ว่าการสอบสวนจะเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน แม้จะมีข้อสรุปในใจเบื้องต้นแล้ว แต่ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการเพื่อให้โรงเรียนสามารถเดินหน้าจัดการเรียนการสอนต่อไปได้
สถานการณ์ที่โรงเรียนบ้านหินกบยังคงต้องติดตามต่อไปว่า ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะดำเนินการอย่างไรต่อข้อเรียกร้องอันหนักแน่นของผู้ปกครอง ที่แสดงออกถึงความกังวลในความปลอดภัยของบุตรหลานและปัญหาการบริหารงานภายในโรงเรียนอย่างชัดเจน