บิ๊กเต่า ลุยค้นวัดไร่ขิงรอบ 2 ชี้ ‘ทิดแย้ม’ ยังพูดไม่หมด ขยายผลสอบทุกคนเอี่ยวถึงสามีสีกา
นครปฐม – เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมทีมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.), สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นการเข้าตรวจสอบครั้งที่สอง เพื่อขยายผลการสอบสวนในประเด็นเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของวัด และบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบและสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับการตรวจสอบวัดต่างๆ ในอนาคต การตรวจสอบในวันนี้จะเน้นไปที่เส้นทางการเงิน ระบบการจ่ายเงินของบัญชีวัด ทั้งบัญชีที่มีการรายงานต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และบัญชีอื่นๆ ที่มีการดำเนินการโดยกรรมการวัด หรือไวยาวัจกร แต่ไม่ได้มีการรายงานเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจัดระบบให้ถูกต้อง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำงานต่อไป
รอง ผบช.ก. ยืนยันว่า การดำเนินการทั้งหมดจะเป็นไปตามหลักฐาน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินที่เข้าข่ายทุจริต จะพิจารณาตามข้อเท็จจริง พร้อมกล่าวถึงสถานการณ์ของวัดไร่ขิงในปัจจุบันว่า เป็นวัดที่มีชื่อเสียง มีสาธุชนและผู้ใจบุญเดินทางมากราบไหว้บูชาพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก อยากให้สาธุชนแยกแยะระหว่างตัวบุคคลที่ประพฤติผิดกับตัววัด ซึ่งควรเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนต่อไปได้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวเน้นย้ำว่า ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือข้าราชการอื่นๆ หน้าที่คือต้องกำจัดคนไม่ดีออกไป โดยไม่มีการกลั่นแกล้งหรือทับถม ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะถูกสอบสวนทั้งหมด รวมถึงผู้ที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้อย่างสามีของหญิงสาวคนหนึ่งด้วย ซึ่งต้องตรวจสอบว่าให้การตามข้อเท็จจริงหรือไม่
สำหรับความคืบหน้าในการสอบสวนอดีตเจ้าอาวาส หรือที่เรียกกันว่า ‘ทิดแย้ม’ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่ไม่ชัดเจน จากการสอบปากคำพบว่า อดีตเจ้าอาวาสรับสารภาพเพียงบางส่วนเท่านั้น บางส่วนก็บอกไม่หมด และบางส่วนก็ยังไม่ได้บอกถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด
จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก ซึ่งรวมถึงพระสงฆ์ ประชาชน ไวยาวัจกร กรรมการวัด และผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ การทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ จะมีการคัดแยกประเด็นต่างๆ อย่างละเอียด และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม ไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือซ้ำเติมใคร เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการทำงานของภาครัฐ และควบคุมดูแลให้วัดอยู่ในกรอบที่ถูกต้อง
เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่วัดนำเงินไปซื้อที่ดินต่างๆ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอีกส่วนที่ต้องนำมาตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใช้หลักความยุติธรรมและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าการทำงานไม่ได้กระทำโดยพลการ แต่มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือดูแล ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่
แหล่งข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ การสืบสวนได้เริ่มต้นจากการใช้เทคโนโลยี และการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าเก็บข้อมูล แต่ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องดำเนินการ ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวเกี่ยวกับอดีตเจ้าอาวาส หรือ ‘ทิดแย้ม’ ว่า นอกจากประเด็นเรื่องการพนันและการยักยอกเงินวัดแล้ว ยังเคยถูกหญิงสาวคนสนิท หรือ ‘สีกา’ แบล็กเมล์ด้วย และหลักฐานบางอย่างที่ยึดได้มีลักษณะคล้ายถูกจัดเตรียมไว้ก่อน นอกจากนี้ ในคืนแรกของการถูกคุมขัง มีรายงานว่า ‘ทิดแย้ม’ มีอาการเครียด และปฏิเสธมื้ออาหารเย็น โดยให้เหตุผลว่าไม่เคยฉันภัตตาหารในช่วงเย็น