สปส. ย้ำสิทธิผู้ประกันตน ม.33-39 ป่วยโรคไต รักษาฟรีทุกระยะ พร้อมเปิดขั้นตอนและสถานพยาบาลที่ร่วมโครงการ
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ย้ำชัด ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังทุกระยะ สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมชี้แจงรายละเอียดสิทธิประโยชน์การบำบัดทดแทนไต และขั้นตอนการขออนุมัติเพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงสิทธิอย่างครบถ้วน
วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่าโรคดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยและยังมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
นางมารศรี กล่าวย้ำถึงความพร้อมของสำนักงานประกันสังคมในการดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตทุกระยะ โดยสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
สิทธิประโยชน์การบำบัดทดแทนไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
สำหรับผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย สปส. ได้กำหนดสิทธิประโยชน์ในการบำบัดทดแทนไต เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งครอบคลุมการรักษาหลายรูปแบบ ดังนี้:
- การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม: ให้สิทธิในอัตราไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง และไม่เกิน 4,500 บาทต่อสัปดาห์ (สูงสุด 18,000 บาทต่อเดือน) นอกจากนี้ ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเตรียมหลอดเลือดหรือสายสวนหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือด รวมถึงรายการหัตถการและเวชภัณฑ์ที่สำคัญตามอัตราที่กำหนด โดยไม่จำกัดกรอบระยะเวลา
- กรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ติดเชื้อเอชไอวี: จะได้รับค่าฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในอัตราที่สูงขึ้น เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น โดยจ่ายให้แก่สถานพยาบาลที่ สปส. กำหนด ในอัตราเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อครั้ง และไม่เกิน 12,000 บาทต่อสัปดาห์
- การล้างช่องท้องด้วยน้ำยาอย่างถาวร: ให้สิทธิไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท และจ่ายค่าวางท่อรับส่งน้ำยาเข้าออกช่องท้องพร้อมอุปกรณ์ ในอัตราไม่เกิน 20,000 บาทต่อราย ต่อระยะเวลา 2 ปี หากภายใน 2 ปี มีความจำเป็นต้องวางท่อรับส่งน้ำยาล้างช่องท้องใหม่ จะได้รับการจ่ายเพิ่มอีกไม่เกิน 10,000 บาท
- การล้างช่องท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ: สำหรับผู้ประกันตนที่มีความพร้อมในการทำการล้างช่องท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ จะได้รับสิทธิในอัตราเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 32,700 บาทต่อเดือน
- การปลูกถ่ายไต: ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิบริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไต รวมถึงได้รับยากดภูมิคุ้มกันต่อเนื่องตลอดชีวิต
ขั้นตอนการขออนุมัติใช้สิทธิบำบัดทดแทนไต
เลขาธิการ สปส. กล่าวต่อว่า ผู้ประกันตนที่ประสงค์จะใช้สิทธิบำบัดทดแทนไต จะต้องดำเนินการยื่นขอรับการอนุมัติสิทธิจากสำนักงานประกันสังคมก่อนเข้ารับการรักษา สามารถยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ โดยเตรียมเอกสารประกอบ ดังนี้:
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีบำบัดทดแทนไตและปลูกถ่ายอวัยวะฯ (สปส. 2-18)
- สำเนาเวชระเบียนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรคไต
- ใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงความจำเป็นในการบำบัดทดแทนไต
- หนังสือรับรองจากอายุรแพทย์โรคไต
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีคนไทย) หรือสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือหนังสือสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว พร้อมใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย (กรณีผู้ประกันตนต่างชาติ)
ทั้งนี้ สำหรับกรณีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับสิทธิได้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ยื่นเรื่องผ่านสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกรณีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมกับสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศได้โดยตรงเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
ตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลและข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่ร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ทางการของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วน 1506 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง.
สปส. มุ่งมั่นที่จะดูแลสุขภาพของผู้ประกันตนให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคไต เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง.