กรุงเทพฯ – "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวมืออันดับ 2 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 (PTT Thailand Open 2025) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยนับเป็นแชมป์สมัยที่สองของเจ้าตัวในรายการนี้ ต่อหน้าแฟนแบดมินตันชาวไทยอย่างล้นหลาม

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กุลวุฒิ วัย 24 ปี ต้องโคจรมาพบกับคู่ปรับสำคัญอย่าง อันเดรส แอนทอนเซน (Anders Antonsen) นักแบดมินตันมืออันดับ 3 ของโลกจากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งการพบกันครั้งนี้เป็นไปอย่างดุเดือด ก่อนที่กุลวุฒิจะสามารถพลิกเกมเอาชนะไปได้ 2-1 เกม ผงาดคว้าโทรฟี่แชมป์อันทรงเกียรตินี้ไปครอง

ภายหลังจบการแข่งขัน "วิว" กุลวุฒิ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังคว้าแชมป์ โดยยอมรับว่าชัยชนะในวันนี้เป็นสิ่งที่เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มากนัก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งของคู่แข่งในรอบที่ผ่านมา

"วันนี้เกินคาดมากๆ ครับ เพราะหากดูจากฟอร์มเมื่อวานแล้ว (รอบก่อนรองชนะเลิศ) อันเดรส แอนทอนเซน ฟอร์มเขาดีมากๆ วันนี้ก็ไม่คิดว่าจะชนะเขาด้วยซ้ำ แต่เราอยากเล่นให้เต็มที่ที่สุด เพราะว่าแฟนๆ มาดูกันเยอะ ก็อยากทำให้เต็มที่" กุลวุฒิกล่าว

นักตบลูกขนไก่ขวัญใจชาวไทยยังได้อธิบายถึงท่าดีใจด้วยการชูนิ้วสามนิ้ว ซึ่งมีความหมายถึงการเป็นแชมป์รายการที่ 3 ในปีนี้ของเขา ต่อจากรายการอินโดนีเซีย มาสเตอร์ (Indonesia Masters) และแบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย (Badminton Asia Championships) โดยหวังว่าชัยชนะครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ตนเองพัฒนาต่อไปเพื่อคว้าแชมป์รายการที่ 4, 5, 6 และต่อๆ ไป

กุลวุฒิยังเปิดเผยถึงเคล็ดลับที่ทำให้เล่นได้ดีในวันนี้ว่ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เนื่องจากสถิติการพบกันที่ผ่านมาส่วนใหญ่ตนเองจะเป็นฝ่ายแพ้ ทำให้ไม่มีความกดดันมากนัก และมีโอกาสที่จะเรียนรู้จากคู่แข่ง การมีแรงฮึดสู้ในวันนี้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณแรงเชียร์จากแฟนๆ ชาวไทยที่เข้ามาให้กำลังใจอย่างเนืองแน่นในสนาม ซึ่งเขาเชื่อว่าหากเป็นการแข่งขันในรายการอื่นที่ไม่มีเสียงเชียร์มากมายขนาดนี้ ตนเองอาจจะตกรอบไปแล้วก็เป็นได้

"ก็อยากที่จะพยายามเรียนรู้ต่อไปไม่หยุดแค่นี้ การเล่นในบ้านลึกๆ ในใจก็หวังว่าอยากจะคว้าแชมป์ในบ้าน เพราะปีหนึ่งเราเล่นครั้งเดียว ก็อยากทำให้แฟนๆ ที่มาเชียร์ไม่ผิดหวัง แต่ว่าวันนี้ผมก็รู้สึกเกินคาดกับตัวเอง ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยทุกคนครับ" กุลวุฒิกล่าวทิ้งท้าย แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนอันอบอุ่นจากแฟนๆ

ชัยชนะครั้งนี้ของกุลวุฒิ วิทิตศานต์ ไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของนักแบดมินตันไทยในเวทีโลก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ และสร้างความสุขความภาคภูมิใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ