กรุงเทพฯ – ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าจับตาในช่วงสัปดาห์นี้ เมื่อมีรายงานยืนยันความชัดเจนเกี่ยวกับการย้ายพรรคของสองอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร จากพรรคไทยสร้างไทย ได้แก่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต สส. เขตสายไหม และนายการุณ โหสกุล อดีต สส. เขตดอนเมือง

แหล่งข่าวจากพรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ ได้มีการพูดคุยและหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกับแกนนำคนสำคัญของพรรคกล้าธรรม ซึ่งรวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผา สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ก็ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าร่วมงานการเมืองภายใต้สังกัดพรรคกล้าธรรม

ล่าสุด มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม เวลา 15.00 น. นี้ ทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ มีกำหนดการที่จะเดินทางไปยังที่ทำการพรรคกล้าธรรม เพื่อดำเนินการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวและยืนยันการย้ายสังกัดพรรคอย่างเป็นทางการ

สิ่งที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ บทบาทที่ น.อ.อนุดิษฐ์ จะได้รับในพรรคกล้าธรรม รายงานระบุว่า ทางพรรคเตรียมมอบหมายตำแหน่งสำคัญให้แก่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ โดยคาดว่าจะให้ดำรงตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ทันทีหลังจากที่เข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อการกำหนดทิศทาง นโยบาย และกลยุทธ์ในการดำเนินงานของพรรคในอนาคต

การตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมของทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ ซึ่งเป็นอดีต สส.กทม. หลายสมัย มีประสบการณ์ในสภาผู้แทนราษฎร และนายการุณ อดีต สส.กทม. ที่มีฐานเสียงในพื้นที่เขตดอนเมือง ถือเป็นการเสริมทัพที่สำคัญให้กับพรรคกล้าธรรม โดยเฉพาะในเชิงของประสบการณ์ทางการเมืองและฐานเสียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตทางการเมืองที่ยังคงดำเนินอยู่ และอาจส่งผลต่อการปรับตัวของพรรคการเมืองต่างๆ ในการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป การที่พรรคกล้าธรรมสามารถดึงดูดอดีต สส. ที่มีประสบการณ์เข้าร่วมได้เช่นนี้ ย่อมเป็นการเพิ่มศักยภาพและความน่าสนใจให้กับพรรคในสายตาประชาชนและนักการเมืองอื่นๆ

คาดว่าภายหลังจากการสมัครสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ จะมีการแถลงข่าวหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของทั้งสองท่านในพรรคกล้าธรรมอย่างละเอียดต่อไป ความเคลื่อนไหวนี้จึงเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั้งสื่อมวลชนและผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง.