กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.เรืองวิทย์ ดวงจินดา สว.กก.1 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายชำนาญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” โดยจับกุมได้บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งได้ใช้บริการรถแท็กซี่จากบริเวณหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในเขตราชเทวี เพื่อเดินทางไปยังซอยแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง โดยมีนายชำนาญ ผู้ต้องหา เป็นผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว

ระหว่างการเดินทาง นายชำนาญได้ชักชวน น.ส.บี พูดคุยในเรื่องต่าง ๆ ในช่วงแรกเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่เมื่อขับรถมาถึงบริเวณซอยแห่งหนึ่ง การสนทนาของผู้ต้องหาก็เปลี่ยนไป โดยเริ่มชวนคุยเรื่องเพศและเรื่องลามกตลอดทาง ซึ่งทำให้ น.ส.บี รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และได้แต่ภาวนาให้ถึงที่หมายโดยเร็ว

เมื่อรถแท็กซี่มาถึงจุดหมายปลายทาง ก่อนที่ น.ส.บี จะลงจากรถ นายชำนาญได้ใช้มือเข้าจับบริเวณหน้าขาขวาของเธอ ทำให้เด็กสาวตกใจและตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ด้วยความตกใจและหวาดกลัว น.ส.บี จึงรีบชำระเงินค่าโดยสารและวิ่งลงจากรถไปทันที

หลังจากลงจากรถ น.ส.บี ได้รีบกลับไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้ปกครองฟัง ซึ่งผู้ปกครองได้รับฟังเรื่องราวแล้วรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง จึงได้พา น.ส.บี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากคำให้การของ น.ส.บี และพยานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับนายชำนาญ ผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมของ บก.ป. ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่านายชำนาญได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตทวีวัฒนา จึงได้นำกำลังเข้าติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายชำนาญให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะลวนลาม น.ส.บี เนื่องจากตนเองอายุมากแล้ว ถึง 62 ปี จึงพ้นจากเรื่องชู้สาวไปแล้ว และที่ใช้มือแตะตัว น.ส.บี นั้น เพียงเพราะรู้สึกเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน ไม่ได้คาดคิดว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้ถึงขั้นต้องเข้าแจ้งความ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และได้นำตัวนายชำนาญ ส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.