พร้อมพงศ์ ชี้ ‘ฮั้ว สว.’ ไม่ทำ ภูมิใจไทย ‘ฆ่าตัวตาย’ งัดเกมงบฯ 69 เตือนทุกพรรคเร่งแก้ปัญหาประชาชน

อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ มองเกมการเมือง ประเมินสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสข่าวการฮั้ว สว. และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ยืนยันไม่เชื่อว่าจะมีพรรคใดใช้กฎหมายงบประมาณเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง พร้อมเตือนทุกพรรคให้หันกลับมาเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนที่กำลังเผชิญความเดือดร้อน

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวประเด็นการฮั้ว สว. ที่กำลังเป็นที่จับตาของสังคมและประชาชนอย่างใกล้ชิด รวมถึงบทบาทและการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าจะออกมาในทิศทางใด

ในมุมมองทางการเมือง นายพร้อมพงศ์ ยอมรับว่า มีความกังวลว่าประเด็นการฮั้ว สว. นี้ อาจนำไปสู่จุดแตกหักระหว่างพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญอย่างพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปรับคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งสำคัญๆ หรืออาจมีการนำเกมการเมือง โดยเฉพาะการโหวตลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มาใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมืองหรือไม่นั้น เป็นมุมมองที่เกิดขึ้นได้ของแต่ละฝ่าย

อย่างไรก็ตาม นายพร้อมพงศ์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันยังคงมีวาระการทำงานเหลืออยู่อีกประมาณ 2 ปี ท่ามกลางปัญหาของประชาชนที่กำลังเผชิญและรอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ การเตรียมรับมือกับภัยธรรมชาติที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้น หรือการเตรียมรับมือกับประเด็นทางภาษีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งล้วนเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่าย ทุกพรรคร่วมรัฐบาล ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

“ประเด็นเรื่อง สว. จะมีการฮั้วกันหรือไม่ เป็นเรื่องของบุคคลที่ถูกกล่าวหาจะต้องไปพิสูจน์ตัวเองกับองค์กรอิสระ หน่วยงานที่ตรวจสอบ หากพิสูจน์แล้วว่าไม่ผิด ก็ต้องออกมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป หากเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก็ต้องน้อมรับผลที่ออกมา ส่วนหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปล่อยให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง เพื่อเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมา” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวย้ำอย่างหนักแน่นว่า ตนไม่เชื่อว่าประเด็นคดีความของ สว. จะนำไปสู่การที่พรรคใดพรรคหนึ่ง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย จะไม่โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2569 ในวาระที่ 1 ซึ่งกำลังจะมีการพิจารณาในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะหากทำเช่นนั้น เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืองโดยแท้จริง และจะไม่เกิดผลดีกับฝ่ายใดเลย

นายพร้อมพงศ์ ชี้ว่า การลากเอาความขัดแย้งทางการเมืองมาใช้ประโยชน์ของประชาชนมาเป็นเครื่องมือต่อรองนั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจ้องจะเล่นเกมการเมืองมากจนเกินไป ประชาชนจะจดจำพฤติกรรมดังกล่าวไว้ และรอลงโทษผ่านการเลือกตั้งในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน

อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยแสดงความเชื่อมั่นว่า ในเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล ทุกพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกลางคัน และอยากจะอยู่ให้ครบเทอม

ดังนั้น สิ่งที่ทุกพรรคการเมืองควรรีบทำอย่างเร่งด่วน คือ การหันไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เอาปัญหาของประชาชนที่รอการแก้ไขมาเป็นตัวตั้ง มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน เพื่อสร้างผลงานที่น่าจดจำให้กับประชาชน ดีกว่าการมุ่งเน้นทำลายล้างทางการเมือง ซึ่งคงไม่เป็นผลดีต่อใครเลยในสถานการณ์ปัจจุบัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *