“เพื่อไทย” เดินหน้าดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” พบผู้พัฒนาคาสิโน ชี้เป็นเดิมพันใหญ่ของสังคมไทย
จากรายงานข่าวที่ระบุถึงการหารือระหว่าง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ นายคริส กอร์ดอน ประธานบริษัท Wyn Development ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ด้านคอมเพล็กซ์และคาสิโน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าผลักดันแนวคิดการก่อสร้าง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ขนาดใหญ่ ซึ่งจะรวมถึงบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย
โครงการนี้มีเป้าหมายหลักในการดึงดูดนักพนันรายใหญ่ และนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะยังมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรทางศาสนาที่แสดงความกังวลด้านศีลธรรมอันดี
รัฐบาลยืนยันว่าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่เสนอมานี้ จะใช้เงินลงทุนจากภาคเอกชนทั้งหมด โดยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ไม่ได้ใช้เงินภาษีของประชาชน และจะช่วยสร้างรายได้ภาษีจำนวนมหาศาลจากชาวต่างชาติ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากประเด็นด้านศีลธรรมและการลงทุน คำถามสำคัญที่สังคมต้องพิจารณาคือ รัฐบาลและสังคมไทยมีความพร้อมเพียงใดในการรับมือกับปัญหา “การพนันติด” ที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น คาสิโน Marina Bay Sands ในประเทศสิงคโปร์ ได้นำมาตรการหลายอย่างมาใช้เพื่อควบคุมหรือลดผลกระทบเชิงลบของการพนันติด มาตรการเหล่านี้มุ่งหวังให้ปัญหาการพนันในกลุ่มชาวสิงคโปร์ (pathological and problem gambling – PPG) ยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพที่ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์
มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย การเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับชาวสิงคโปร์ ในอัตรา 250 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อครั้ง (ประมาณ 6,500 บาท) นอกจากนี้ยังมีระบบที่บุคคลสามารถแจ้งความจำนงในการกีดกันตนเอง (self-exclusion) ไม่ให้เข้าบ่อนได้ รวมถึงทางเลือกสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่จะยื่นคำร้องขอให้บุคคลในครอบครัวถูกห้ามเข้าบ่อน เนื่องจากมีปัญหาการพนันติดขั้นรุนแรง นอกจากนี้ สภาแห่งชาติว่าด้วยปัญหาการพนันของสิงคโปร์ (National Council on Problem Gambling) ยังสามารถออกคำสั่งกีดกันบุคคลบางรายจากคาสิโนได้
จากสถิติล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 พบว่า มีจำนวนผู้ที่แจ้งความจำนงกีดกันตนเองออกจากคาสิโนมากถึง 184,054 คน
ผู้เขียนข่าวนี้ได้มีโอกาสเยี่ยมชมคาสิโน Marina Bay Sands เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อสังเกตการณ์ บรรยากาศภายในคาสิโนเป็นไปตามแบบฉบับทั่วไป คือไม่มีแสงธรรมชาติ และไม่มีนาฬิกา เพื่อไม่ให้ผู้เล่นรู้เวลา
อย่างไรก็ตาม ที่เคาน์เตอร์แลกชิป มีจุลสารสีม่วงจัดวางไว้ให้บริการ มีข้อมูลเกี่ยวกับการพนันอย่างรับผิดชอบ เป็นภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น
“คุณกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นพนันของคุณหรือไม่?” คือคำถามที่ปรากฏในหน้าที่ 5 ของจุลสาร พร้อมรายการตรวจสอบแบบตอบ “ใช่/ไม่ใช่” เช่น
- คุณคิดถึงการเล่นพนันทุกวันหรือไม่?
- คุณปิดบังเรื่องการเล่นพนันกับคนรักของคุณหรือไม่?
- คุณเคยกู้ยืมเงินมาเล่นพนันหรือไม่?
- คุณปล่อยให้บิลต่างๆ ค้างชำระหรือไม่?
- การเล่นพนันของคุณส่งผลกระทบต่องาน หรือบทบาทการเป็นผู้ปกครองของคุณหรือไม่?
- คุณคิดว่าคุณสามารถใช้ทักษะเพื่อชนะในการเล่นเครื่องเกมได้หรือไม่?
- คุณเล่นพนันเพื่อลืมปัญหาของคุณหรือไม่?
คาสิโนให้คำแนะนำว่า หากตอบ “ใช่” ในคำถามเหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่ง นั่นอาจหมายความว่าคุณมี “ปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นพนันของคุณ”
ประเทศไทยมีการพนันที่ถูกกฎหมายมานานหลายทศวรรษผ่านสลากกินแบ่งรัฐบาล และบางส่วนก็โต้แย้งว่ามีการพนันผิดกฎหมายจำนวนมากเกิดขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์อยู่แล้วในขณะที่ผู้เขียนกำลังพิมพ์ข้อความนี้ อย่างไรก็ตาม การพนันถูกกฎหมายในระดับใหญ่จะถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก หากโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์นี้เดินหน้าต่อไป และยังไม่มีหนทางใดที่จะประเมินผลกระทบเชิงลบทางสังคมและเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ในขณะนี้
จึงอาจกล่าวได้อย่างเป็นธรรมว่า ตัวโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์เองนั้น ก็คือ “การเดิมพัน” ครั้งหนึ่ง ไม่ใช่แค่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่ดูเหมือนจะมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเดิมพันสำหรับสังคมไทยทั้งมวลด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ผลประโยชน์ทางการเงินที่ได้จากภาคเอกชนผู้ดำเนินโครงการ จะสามารถชดเชยผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ติดการพนันได้หรือไม่?