กรุงเทพมหานคร – ตำรวจ กก.ดส. บุกทลายแหล่งค้าประเวณีเด็กหนุ่มคาโรงแรมดัง ย่านป้อมปราบศัตรูพ่าย รวบตัวหนุ่มวัยเพียง 18 ปี ที่ผันตัวเองเป็น ‘พ่อเล้า’ คอยจัดหาเพื่อนวัยเดียวกันให้ลูกค้า โดยคิดค่านายหน้าครั้งละ 1,000 บาท หลังได้รับแจ้งเบาะแสและวางแผนล่อซื้อ.

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รองผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง สว.กก.ดส., ร.ต.อ.กิตติกานต์ สินประกอบ รองสว.กก.ดส. และชุดสืบสวนกก.ดส. ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุม นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และ นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ภายในห้องพักหมายเลข 107 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้ใช้แอปพลิเคชัน LINE เป็นช่องทางในการจัดหาและให้บริการทางเพศ โดยมี นายเอ (นามสมมติ) เป็นผู้ติดต่อและดำเนินการ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนส่งสายลับจำนวน 2 นาย ทำการติดต่อล่อซื้อบริการค้าประเวณีดังกล่าว

จากการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชัน LINE สายลับได้ตกลงซื้อบริการทางเพศ โดยมีการกำหนดราคาค่าบริการทางเพศไว้ที่คนละ 800 บาท และ นายเอ (นามสมมติ) จะคิดค่านายหน้าหรือค่าธุระจัดหาเพิ่มอีก 1,000 บาท โดยแจ้งให้ลูกค้าชำระค่าบริการทั้งหมดผ่านตนเอง ซึ่งหลังจากหักค่านายหน้าแล้ว ส่วนที่เหลือจึงจะแบ่งให้กับผู้ให้บริการ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน พร้อมบันทึกเลขธนบัตรที่จะใช้ในการล่อซื้อ และมอบหมายให้สายลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปทำการล่อซื้อบริการตามที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อถึงเวลานัดหมาย สายลับได้เดินทางไปยังโรงแรมเป้าหมายและเข้าพบกับ นายเอ (นามสมมติ) เพื่อใช้บริการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกระจายกำลังซุ่มสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง

เมื่อสายลับเข้าพบ พบว่ามีผู้ให้บริการจำนวน 2 ราย อยู่ภายในห้องพัก ตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ สายลับได้ทำการส่งมอบเงินค่าบริการให้กับ นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด และได้ถ่ายภาพประกอบส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เพื่อยืนยันว่ามีการส่งมอบเงินและผู้ให้บริการอยู่ภายในห้องจริง

ภายหลังจากได้รับสัญญาณยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และเคาะประตูขอเข้าทำการตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าว เมื่อเข้าไปในห้อง เจ้าหน้าที่พบ นายเอ (นามสมมติ) และ นายบี (นามสมมติ) ซึ่งนั่งถอดเสื้ออยู่ในสภาพที่พร้อมให้บริการสายลับ

จากการตรวจค้นภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่พบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ รวมมูลค่า 2,000 บาท อยู่ภายในกระเป๋าเก็บเงิน และพบธนบัตรอีก 1,000 บาท อยู่กับ นายเอ (นามสมมติ) จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้ง นายเอ (นามสมมติ) และ นายบี (นามสมมติ) ได้ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำการค้าประเวณีจริง โดย นายเอ (นามสมมติ) ยอมรับว่าเป็นผู้จัดหาเพื่อนมาให้บริการลูกค้า และตนเองเป็นผู้รับเงินทั้งหมดก่อนจะแบ่งส่วนแบ่งให้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเอ (นามสมมติ) ในข้อหา “สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ตาม และ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร”

ส่วน นายบี (นามสมมติ) ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการของตนเองหรือผู้อื่น”

ภายหลังการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.