กรุงเทพมหานคร – เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการเข้าชื่อ สว. เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีที่ สว. กลุ่มหนึ่งกำลังถูกตรวจสอบในคดีที่เกี่ยวข้องกับการสมยอมในการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ‘คดีฮั้วสว.’

น.ส.นันทนา ระบุว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการยกร่างคำร้อง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 19 พฤษภาคม เพื่อส่งให้กลุ่ม สว. อิสระพิจารณาและร่วมลงชื่อให้ครบตามจำนวนที่กำหนด คือ 1 ใน 10 หรือ 20 คน เพื่อยื่นผ่านนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

สาระสำคัญของคำร้องฉบับนี้ คือ การขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ สว. ทั้ง 200 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระเป็นการชั่วคราว โดยครอบคลุมทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ไปจนถึงการลงมติ

เหตุผลที่ น.ส.นันทนา และกลุ่ม สว. ยื่นคำร้องนี้ คือ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและไม่ลักลั่น โดยให้ สว. ทุกคนหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนนี้ เพราะเชื่อว่ามี สว. จำนวนมากที่กำลังถูกตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคาดว่าจะมี สว. เกินกึ่งหนึ่งที่อาจถูกยื่นข้อกล่าวหา

“หากกระบวนการตรวจสอบนี้ยังดำเนินอยู่ แปลว่าที่มาของ สว. ยังไม่ชัดเจนว่ามาโดยถูกต้อง ชอบธรรม และสุจริตหรือไม่” น.ส.นันทนา กล่าวและย้ำว่า “ดังนั้น หากที่มาไม่ชัดเจน และเข้าไปทำหน้าที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระนั้น จะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ทันที เพราะเมื่อ สว. ได้เห็นชอบองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบที่มาของ สว. จึงมีลักษณะต่างตอบแทนกัน ไม่ใช่การตรวจสอบที่สุจริต โปร่งใส ยุติธรรม”

น.ส.นันทนา ยังกล่าวต่อว่า การเดินหน้ากระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระในขณะที่ สว. จำนวนหนึ่งถูกตรวจสอบ อาจส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระเหล่านั้นในอนาคต และอาจถูกร้องว่าเป็นโมฆะได้ หากผู้ที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระนั้นภายหลังถูกชี้ว่าขาดคุณสมบัติ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีความไม่ชัดเจนเกิดขึ้น น.ส.นันทนา จึงต้องการให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนนี้ และขอให้หยุดจนกว่ากระบวนการตรวจสอบ สว. จะเสร็จสิ้น ซึ่งเธอมองว่า การกลับมาเลือกกรรมการองค์กรอิสระใหม่หลังจากที่กระบวนการตรวจสอบแล้วเสร็จนั้น “ไม่สายเกินไป ดีกว่าการดันทุรังให้เกิดการเห็นชอบ”

น.ส.นันทนา ยืนยันว่าจะดำเนินการเข้าชื่อและยื่นคำร้องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาก่อนที่วุฒิสภาจะมีการนัดประชุมในช่วงการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยเธอเชื่อว่าจะมี สว. ร่วมสนับสนุนเกินจำนวนที่กำหนด

เมื่อถูกถามถึงประเด็นอื่น ๆ ที่อาจอยู่ในคำร้อง เช่น การวินิจฉัยการขาดสมาชิกภาพของ สว. เนื่องจากฝักใฝ่พรรคการเมือง น.ส.นันทนา ระบุว่า ประเด็นนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นมติที่ชัดเจน

ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 นั้น น.ส.นันทนา กล่าวว่า ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ตามกฎหมายงบประมาณ สว. ไม่มีอำนาจมากนักในการลด เพิ่ม หรือแก้ไข มีเพียงอำนาจในการลงมติเท่านั้น ดังนั้น บทบาท สว. ในกระบวนการนี้จึงไม่มาก และเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถชะลอได้.