กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้นำตัว นายเอกพจน์ อายุ 25 ปี หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลเป็นครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 พฤษภาคม 2568

ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหาตามความผิดพระราชบัญญัติการพนัน ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” และความผิดฐานฟอกเงินในข้อหา “สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษสูง

ภายหลังจากยื่นฝากขังแล้ว ญาติของนายเอกพจน์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ศาลได้พิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีความเห็นว่าคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า หากปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และอาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้

ด้วยเหตุนี้ ในชั้นนี้ ศาลจึงยังไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้องขอประกันตัวดังกล่าว ทำให้ นายเอกพจน์ ต้องถูกควบคุมตัวต่อไปตามคำสั่งศาล

สำหรับนายเอกพจน์ หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ ถือเป็นบุคคลใกล้ชิดกับอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ ทิดแย้ม ซึ่งก่อนหน้านี้ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับประเด็นการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก รวมถึงการโอนเงินกว่า 80 ล้านบาทภายในหนึ่งเดือนให้กับโบรกเกอร์สาว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบ