เคียฟ, ยูเครน – เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นในประเทศยูเครนอีกครั้ง เมื่อโดรนของกองทัพรัสเซียได้เข้าโจมตีรถบัสโดยสารในเมืองบิโลปิลเลีย (Bilopillia) แคว้นซูมือ (Sumy) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ เวลาประมาณ 06.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น

นายโอเล็ก ไฮร์โฮรอฟ (Oleh Hryhorov) หัวหน้าฝ่ายบริหารแคว้นซูมือ ได้ออกมาประณามการกระทำของรัสเซียในครั้งนี้อย่างรุนแรง โดยกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ “ไร้มนุษยธรรม” (inhumane) และอ้างข้อมูลเบื้องต้นว่ารถบัสคันดังกล่าวถูกโจมตีด้วยโดรนแบบ Lancet ของรัสเซีย ขณะที่กองทัพรัสเซียยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

เหตุการณ์โจมตีรถบัสโดยสารพลเรือนนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่คณะผู้แทนจากรัฐบาลยูเครนและรัสเซีย รวมถึงเจ้าหน้าที่จากตุรกี ได้เข้าร่วมการหารือเพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการพูดคุยกันต่อหน้าครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565

แม้ว่าการเจรจาที่อิสตันบูลจะยังไม่นำไปสู่ความคืบหน้าสำคัญในการยุติความขัดแย้ง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากในประเด็นหลัก แต่ก็มีการตกลงในเรื่องการแลกเปลี่ยนเชลยศึก โดยแต่ละฝ่ายจะส่งคืนเชลยศึกจำนวน 1,000 นายให้แก่อีกฝ่ายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เหตุการณ์ล่าสุดนี้ยิ่งตอกย้ำความตึงเครียดและอันตรายที่ประชาชนชาวยูเครนต้องเผชิญในพื้นที่สู้รบ โดยเฉพาะในแคว้นซูมือซึ่งตั้งอยู่ใกล้พรมแดนรัสเซีย และมักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากฝ่ายรัสเซีย