บิ๊กเต่า สั่งลุยสอบบัญชีวัดไร่ขิง พบ ‘ทิดแย้ม’ ทุ่ม 80 ล้านบาทในเดือนเดียวให้โบรกเกอร์สาว – เตรียมประสาน ปปง.-สตง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน 300 ล้านบาท

ความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิง: พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ “บิ๊กเต่า” รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงผลการสอบปากคำนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ว่ามีความคืบหน้าอย่างมาก และเตรียมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดไร่ขิง รวมถึงบัญชีธนาคารส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสย้อนหลังทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากวัดไร่ขิงเป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีรายได้เข้ามาในแต่ละวันเป็นจำนวนมหาศาล จากหลายช่องทาง ทั้งเงินทำบุญ เงินบริจาคจากญาติโยม และเงินรายได้จากการจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน

ขณะที่ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้นำตัวนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ อายุ 28 ปี โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ สองผู้ต้องหาในคดีนี้ ไปส่งฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายแย้มเคยมีพฤติการณ์เข้าข่ายยุ่งเหยิงหรือทำลายพยานหลักฐานมาก่อน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

เปิดเส้นทางการเงินสุดซับซ้อน: โอนตรง-อำพรางผ่านพระลูกวัด ยอดรวมทะลุ 300 ล้าน!

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงผลการตรวจสอบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาส กับ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งพบข้อมูลที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง โดยการโอนเงินดังกล่าวเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 จนถึงปี พ.ศ. 2567 รูปแบบการโอนมีทั้งการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรงของ น.ส.อรัญญาวรรณ และวิธีการแบบอำพราง โดยให้นำเงินสดไปฝากผ่านตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ (CDM) ผ่านพระลูกวัดหลายรูป ซึ่งยอดเงินที่โอนในแต่ละครั้งมีตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาท เมื่อรวมยอดทั้งหมดแล้วพบว่าสูงถึงประมาณกว่า 300 ล้านบาท

อดีตเจ้าอาวาสใจป๋า! โอน 80 ล้านในเดือนเดียวให้โบรกเกอร์สาว

สิ่งที่สร้างความประหลาดใจและน่าสงสัยอย่างยิ่งคือ การลงลึกในรายละเอียดเส้นทางการเงิน พบข้อมูลว่าเฉพาะในช่วงปี พ.ศ. 2566 เพียงปีเดียว นายแย้มเคยโอนเงินให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมกันมากถึง 80 ล้านบาท และยอดดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นถึงการโอนเงินจำนวนมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น

ขยายผลพบเส้นเงินปริศนาถึงบุคคลใกล้ชิดและอดีตพระเอกพจน์

นอกเหนือจากการยักยอกเงินวัดไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ แล้ว แนวทางการสืบสวนยังพบว่านายแย้มเคยมีการเบิกถอนเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนที่จะมีการโอนไปยังบุคคลใกล้ชิด จากนั้นบุคคลใกล้ชิดเหล่านี้ได้นำเงินไปซื้อรถยนต์หรูหลายคัน แล้วนำกลับมาถวายให้นายแย้มใช้เป็นรถยนต์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังพบเส้นเงินปริศนาอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นพบการโอนเงินจำนวน 200 ล้านบาทไปยังบัญชีของนายเอกพจน์ หรืออดีตพระเอกพจน์ และพบการโอนเงินอีกจำนวน 60 ล้านบาทไปยังบัญชีของชายใกล้ชิดนายแย้มอีกราย ซึ่งเป็นบุคคลภายในวัด

การประสานงานระหว่าง บก.ปปป., สตง., และ ปปง. ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิงและอดีตเจ้าอาวาสอย่างละเอียดรอบด้าน เพื่อคลี่คลายปมการทุจริตและยักยอกทรัพย์ในคดีนี้ให้กระจ่างชัดต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *