หนองคาย – เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมืองหนองคาย นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสำนักงานศุลกากรหนองคาย ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดครั้งสำคัญ

การจับกุมในครั้งนี้ สามารถจับกุมตัว นายคุณากร (ขอสงวนนามสกุล) ชาวไทย พร้อมของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ซึ่งถูกซุกซ่อนมาในถุงกาแฟสำเร็จรูปและถุงอาหารสัตว์ รวมจำนวน 18 ถุง บรรจุอยู่ในกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ 2 ใบ เมื่อนำมาชั่งน้ำหนักพบว่ามีเฮโรอีนรวมทั้งสิ้น 17.6 กิโลกรัม

นางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และนางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร ที่กำชับให้ทุกด่านเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 สังเกตเห็นนายคุณากรฯ เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมกระเป๋าสัมภาระ 2 ใบ มีท่าทางพิรุธ จึงขอตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อนำกระเป๋าทั้งสองใบเข้าเครื่องเอกซเรย์ พบความผิดปกติภายในกระเป๋า

จากการเปิดตรวจสอบ พบถุงกาแฟและถุงอาหารสัตว์จำนวนมากอยู่ภายใน ซึ่งภายในถุงกาแฟ 5 ถุง และถุงอาหารสัตว์ 13 ถุง มีวัตถุผงสีขาวบรรจุอยู่ เมื่อทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยา พบว่าให้ผลเป็นสารเสพติดประเภทเฮโรอีน

นายคุณากรฯ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้เดินทางไปยัง สปป.ลาว เพื่อสอบถามข้อมูลช่วยเหลือเรื่องน้องชายที่ถูกจับกุมกรณีครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ระหว่างนั้นได้มีหญิงคนหนึ่งที่รู้จักผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp ติดต่อมา และแจ้งว่าจะมีคนนำกระเป๋ามาให้ตน

ต่อมา ได้มีชายผิวสี ไม่ทราบสัญชาติ นำกระเป๋าทั้งสองใบมาส่งให้ตน และบอกให้นำกระเป๋ากลับมายังประเทศไทย จากนั้นให้นำไปฝากส่งกับบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งไปยังจังหวัดสงขลา โดยจะแจ้งให้ทราบภายหลังว่าจะให้ส่งมอบแก่ใคร เมื่อเดินทางเข้าด่านฯ ด้วยรถโดยสารระหว่างประเทศ จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด

เฮโรอีนของกลางที่ตรวจพบในครั้งนี้ มีมูลค่าตามราคาตลาดภายในประเทศประมาณ 5,280,000 บาท แต่หากสามารถหลุดรอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปถึงปลายทางที่จังหวัดสงขลาได้ คาดว่าจะมีมูลค่าซื้อขายสูงถึงประมาณ 61,000,000 บาท

ภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลต่อไป