วิจารณ์สนั่น! โผโยกย้าย ‘ทส.’ วุ่น ‘วนศาสตร์ 55’ ผงาด? ย้าย ‘มือปราบทุเรียนจีน’ พ้นพื้นที่สู้คดี

กรุงเทพฯ – คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่ข้าราชการ โดยเฉพาะในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

คำสั่งดังกล่าวลงนามโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีรายชื่อการโยกย้ายที่น่าจับตาหลายตำแหน่ง อาทิ:

  • นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ทสจ.ลำพูน ไปเป็น ทสจ.ฉะเชิงเทรา
  • นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ทสจ.ฉะเชิงเทรา ไปเป็น ทสจ.พิษณุโลก
  • นางอภันตรี เชื้อชม ทสจ.พิษณุโลก ไปเป็น ทสจ.ลำพูน
  • นายวุฒิชัย โสมวิภาต ทสจ.ราชบุรี ไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี)

‘วนศาสตร์ 55’ ผงาด? โยงภรรยา ผอ.สำนักอุทยานฯ

ประเด็นที่สร้างความกังขาอย่างมากคือ การที่ผู้ถูกโยกย้ายหลายรายเป็นอดีตศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่น 55 ซึ่งมีกระแสข่าวว่ากำลังได้รับการสนับสนุนและโปรโมทให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกมองว่าเป็นคนใกล้ชิดกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

หนึ่งในรายชื่อที่ถูกจับตาคือ นางอภันตรี เชื้อชม ทสจ.พิษณุโลก ซึ่งถูกย้ายไปเป็น ทสจ.ลำพูน โดย นางอภันตรี เป็นภรรยาของ นายอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าวนศาสตร์ รุ่น 55 และมีข่าวลือว่าเป็นคนสนิทของรัฐมนตรีเฉลิมชัย การโยกย้ายครั้งนี้จึงถูกมองว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับสายสัมพันธ์ดังกล่าว

ย้าย ‘มือปราบทุเรียนจีน’ พ้นพื้นที่สู้คดี

อีกรายชื่อที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักคือ การโยกย้าย นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ทสจ.ฉะเชิงเทรา ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น ‘มือปราบมูซังกิง’ จากการเดินหน้าตรวจสอบและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม และป่าสียัด จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อปลูกทุเรียนโดยกลุ่มนายทุนคนไทยและจีน ซึ่งมีการใช้ชื่อบุคคลจากจังหวัดอื่นมาแอบอ้างถือครองที่ดิน คทช. (คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) โดยผิดวัตถุประสงค์

นายพัชร์ภารุจ เป็นหัวหอกในการสั่งการลูกน้องเข้าตรวจสอบพื้นที่กว่า 600 ไร่ ประสานงานกับหน่วยเฉพาะกิจพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และทำหนังสือรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อขอให้ยกเลิกที่ดิน คทช. ที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์นี้

ความเคลื่อนไหวของนายพัชร์ภารุจ ได้รับความสนใจจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ซึ่งได้รับเป็นคดีพิเศษเกี่ยวกับทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดย DSI ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำนายพัชร์ภารุจ เนื่องจากพบพฤติกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกนี้ ในลักษณะเดียวกันในอีกหลายจังหวัด

มีกระแสข่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลและเดินหน้าปราบปรามอย่างแข็งขันของนายพัชร์ภารุจ สร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ ก่อนจะมีคำสั่งย้ายออกมา นายพัชร์ภารุจ ทราบล่วงหน้าและได้แจ้งความจำนงว่า หากมีการย้าย ขอให้อยู่ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล แต่สุดท้ายกลับถูกย้ายไปยังจังหวัดพิษณุโลก แทนที่ภรรยาของ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ

นอกจากนายพัชร์ภารุจ ก่อนหน้านี้ นายพันธ์ศักดิ์ ธรรมรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ทสจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นอีกคนสำคัญในการปราบปรามการบุกรุกป่าแควระบมสียัด ก็ถูกย้ายไป จ.พิษณุโลก เช่นกัน แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าทำเรื่องขอย้ายเองเพื่อกลับไปดูแลครอบครัว

สำหรับ นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ทสจ.ลำพูน ที่ย้ายมาเป็น ทสจ.ฉะเชิงเทรา นั้น ก่อนหน้านี้เคยเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และถูกย้ายเป็น ทสจ. มาเรื่อยๆ โดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นการบุกรุกป่าทำสวนทุเรียนของกลุ่มทุนจีน

การโยกย้ายครั้งนี้จึงถูกมองว่าไม่ธรรมดา และอาจมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับการช่วงชิงอำนาจภายในกระทรวง รวมถึงการตอบโต้ผู้ที่พยายามปราบปรามกลุ่มทุนที่บุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคำสั่งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *