ฮานอย ประเทศเวียดนาม – ประเทศไทยและเวียดนามได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ระดับ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นมายาวนานของทั้งสองประเทศ และเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งความร่วมมือในอนาคต

การยกระดับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทำให้ประเทศไทยมีสถานะความสัมพันธ์ทวิภาคีกับเวียดนามอยู่ในระดับเดียวกับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สำคัญอื่นๆ ของเวียดนาม เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และรัสเซีย

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการเดินทางเยือนกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งได้เข้าพบหารือทวิภาคีกับ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยทั้งสองผู้นำได้ร่วมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม (Joint Cabinet Retreat: JCR) ครั้งที่ 4

การประชุม JCR ถือเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ เพื่อหารือและผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างรอบด้าน โดยมีรัฐมนตรีจากกระทรวงสำคัญๆ ของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม และกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า

ตามรายงานของสื่อเวียดนามและไทย การยกระดับสู่ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในหลากหลายมิติ ได้แก่:

• ความร่วมมือด้านการเมือง การกลาโหม และความมั่นคง: เสริมสร้างความไว้วางใจและความมั่นคงในภูมิภาค
• ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ: ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศให้สูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.2 แสนล้านบาท) ในอนาคต ผ่านการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน
• ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน
• ความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด: ผลักดันโครงการและนโยบายด้านพลังงานหมุนเวียน

การยกระดับความสัมพันธ์ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้นำทั้งสองประเทศในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ก้าวไปอีกขั้น โดยอาศัยพื้นฐานของมิตรภาพและความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนาน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองชาติ และเสริมสร้างเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอาเซียน