“ทอม เครือโสภณ” หอบหลักฐาน พบ ปอศ. ชี้ Payment Gateway บริษัทเอี่ยวเว็บพนัน เงินหมุนเวียนกว่า 10,000 ล้านบาท
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายจุลภาส เครือโสภณ หรือ “ทอม เครือโสภณ” นักธุรกิจชื่อดัง ในฐานะกรรมการบริษัท Xendit tech จำกัด พร้อมด้วยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบริษัทฯ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานสำคัญ
เอกสารหลักฐานดังกล่าวเป็นข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของบริษัทฯ ในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในของบริษัทฯ พบความเชื่อมโยงของระบบ Payment Gateway กับเว็บไซต์พนันออนไลน์จำนวนมากถึงกว่า 100 เว็บไซต์ โดยมีเงินหมุนเวียนผ่านระบบของบริษัทฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นจำนวนสูงถึงกว่า 10,000 ล้านบาท
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบริษัทฯ กล่าวชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ของการนำหลักฐานมายื่นในครั้งนี้ว่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินผ่านระบบ Payment Gateway ของบริษัทฯ ในสมัยที่ยังไม่มีการปิดบัญชีธุรกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะส่วนที่โยงใยไปยังกลุ่มเว็บพนันออนไลน์กว่า 100 เว็บไซต์ที่ตรวจพบ และเงินหมุนเวียนจำนวนกว่า 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเส้นทางการเงินเหล่านี้จะมีความเชื่อมโยงกับคดีที่กำลังเป็นกระแสสังคมอยู่ในขณะนี้หรือไม่ เช่น กรณีการยักยอกเงินวัดของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่มีการยักยอกเงินไปกว่า 300 ล้านบาท
ด้านนายจุลภาส เครือโสภณ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเข้ามาซื้อหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบระบบและธุรกรรมทางการเงินอย่างเข้มงวดและรอบด้าน จนกระทั่งตรวจพบความผิดปกติที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์พนันออนไลน์จำนวนมากดังกล่าวทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจ
นายจุลภาส กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ได้มีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงนี้ต่อสาธารณชนไปแล้วเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้แจ้งข้อมูลและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อยืนยันความโปร่งใสและแสดงความพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสืบสวนสอบสวนข้อมูลธุรกรรมที่น่าสงสัยเหล่านี้
เขาย้ำว่า ทางบริษัทฯ พร้อมที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรง พร้อมเชื่อมั่นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน จะร่วมมือกันในการตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ