สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เดินหน้าแผนยกระดับศักยภาพนักกีฬาทีมชาติไทยแบบเต็มรูปแบบ โดยนำหลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถนักปั่น สู่เป้าหมายการเป็นเจ้าเหรียญทองในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จะมาถึง พร้อมใช้เวทีการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 คัดเลือกนักกีฬาฝีมือดีเสริมทัพ

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สนามเวลโลโดรม ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ได้มีการจัดพิธีเปิดการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 โดยได้รับเกียรติจาก “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธี

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากคณะผู้ใหญ่ของสมาคมฯ อาทิ พลเอกเพิ่มศักดิ์ พวงสาโรช, พลเอกวีระกูล ทองมา, พลเอกชลทิศ เลาหะคามิน, พลตรี นายแพทย์ภูษิต เฟื่องฟู และพันเอกสุนทร สัมฤทธิสุทธิ์ ร่วมในพิธี ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของสมาคมฯ ทั้ง Facebook และ YouTube มียอดผู้ชมรวมกว่า 8,000 วิว

พลเอกเดชา เหมกระศรี เปิดเผยถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า สมาคมฯ จะใช้ผลงานของนักกีฬารุ่นประชาชนชาย-หญิง ที่โดดเด่นในการแข่งขันสนามที่ 2 นี้ มาพิจารณาเพื่อเสริมทัพนักปั่นทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเภทลู่มีชิง 5 เหรียญทอง ได้แก่ ทีมเปอร์ซูตชาย, ทีมสปรินท์ชาย, คีรินชาย, พ้อยน์เรซชาย และสแครตช์หญิง อย่างไรก็ตาม กำลังพิจารณาจำนวนชาติสมาชิกที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในบางรายการ หากไม่ครบ 4 ชาติ อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนรายการแข่งขัน เช่น ทีมเปอร์ซูตชาย และทีมสปรินท์ชาย อาจเปลี่ยนเป็น ออมเนียมชาย และออมเนียมหญิงแทน ซึ่งยังต้องรอข้อสรุปอย่างเป็นทางการจากฝ่ายเทคนิคกีฬาซีเกมส์อีกครั้ง

นายกสมาคมฯ กล่าวต่อไปว่า นักกีฬาประเภทลู่ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ปัจจุบันเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่หลังจากจบการแข่งขันสนามที่ 2 ทีมงานผู้ฝึกสอนจะแยกนักกีฬาระยะกลางบางส่วนไปฝึกซ้อมร่วมกับนักกีฬาประเภทถนนที่จังหวัดนครนายก เพื่อเสริมสร้างพละกำลัง ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ยังใช้ผลงานจากการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 1-4 พิจารณานักกีฬารุ่นยุวชนและเยาวชน เพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ “แทร็ค เอเชีย คัพ 2025” ระหว่างวันที่ 28-30 สิงหาคม ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นรายการสำคัญสำหรับเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก

ไฮไลต์สำคัญของแผนงานสมาคมฯ คือการนำ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” มาใช้พัฒนาศักยภาพนักกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ โดยพลเอกเดชาระบุว่า ได้ระดมนักวิทยาศาสตร์การกีฬาทุกแขนงเข้ามาช่วยวางระบบการฝึกซ้อม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์

ด้าน พลตรี นายแพทย์ภูษิต เฟื่องฟู อุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายแพทย์ เสริมว่า วิสัยทัศน์ของนายกสมาคมฯ ที่มองว่าการแข่งขันจักรยานสมัยนี้ไม่ได้แข่งแค่สมรรถนะนักกีฬา แต่ยังแข่งกันที่เทคโนโลยีและองค์ความรู้วิทยาศาสตร์การกีฬา แม้ผู้ฝึกสอนจะมีความรู้ด้านนี้อยู่แล้ว แต่ท่านนายกฯ ได้มอบหมายให้จัดทีมนักวิทยาศาสตร์การกีฬาเฉพาะทาง ทั้งแพทย์เฉพาะทาง, นักกายภาพบำบัด, นักโภชนาการ, นักจิตวิทยา เข้ามาช่วยวางระบบการฝึกซ้อมที่ตรงกับการแข่งขันแต่ละประเภท โดยเฉพาะรายการสปรินท์ที่ตัดสินกันเพียง 1 ใน 1,000 ของวินาที ซึ่งต้องใช้องค์ความรู้ขั้นสูงในการวางแผนการซ้อมและการฟื้นตัวของนักกีฬา ทีมนักวิทยาศาสตร์ฯ ได้เข้ามาสังเกตการณ์แข่งขันในสนามนี้ด้วย เพื่อนำข้อมูลไปออกแบบแผนการฝึกซ้อมที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับผลการแข่งขันบางส่วนในรุ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้

• คีริน รุ่นประชาชนชาย: ที่ 1 จาย อังค์สุธาสาวิทย์ (ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ พระราม 3)
• อิลิมิเนชั่น รุ่นประชาชนหญิง: ที่ 1 น.ส.อภิสรา ศรีมงคล (ทีม Prime19)
• อิลิมิเนชั่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง: ที่ 1 น.ส.อภิสรา ศรีมงคล (ทีม Prime19)
• อิลิมิเนชั่น รุ่นเยาวชนหญิง: ที่ 1 น.ส.ฐนิญาพร สิงห์ทอง (ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ราชวินิตบางแก้ว)
• อิลิมิเนชั่น รุ่นประชาชนชาย: ที่ 1 จ.ท.เจษฎา จันทร์เหลือง (ทีมจักรยานกองทัพอากาศ)
• อิลิมิเนชั่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย: ที่ 1 นายณัฐกฤติ แก้วน้อย (ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก)
• สแครตช์ รุ่นยุวชนชาย: ที่ 1 นายกันตพัฒน์ โพธิ์ศรี (ทีม Hero Bike CK Racing โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย)
• สแครตช์ รุ่นยุวชนหญิง: ที่ 1 น.ส.ณัฐธยาน์ ภู่เกตุ (ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร&Roojai)

สามารถติดตามผลการแข่งขันทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ www.thaicycling.or.th