การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 โดยล่าสุดบอร์ด รฟท. มีมติเห็นชอบให้เร่งเสนอ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนสำหรับโครงการในระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย มีความจำเป็นต้องเวนคืนที่ดินจำนวน 1,991 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,345 ไร่ และสิ่งปลูกสร้าง 1,428 รายการ โดยประเมินวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและทรัพย์สินรวมกว่า 12,418 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้โครงการเฟส 2 ได้รับความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 และผ่านมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา เพื่อเร่งเดินหน้าก่อสร้างต่อไป

โครงการเฟส 2 มีระยะทางรวมประมาณ 357 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นที่สถานีนครราชสีมา และสิ้นสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย 5 สถานีหลัก ได้แก่ สถานีบัวใหญ่, สถานีบ้านไผ่, สถานีขอนแก่น, สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย นอกจากนี้ยังมีศูนย์ซ่อมบำรุงใหญ่ 2 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงทางอีก 4 แห่ง ถือเป็นโครงการสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีน ที่จะช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมระหว่าง ไทย-ลาว-จีน ยกระดับเศรษฐกิจและกระจายความเจริญสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา บอร์ด รฟท. ยังมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินงานสัญญาจ้างก่อสร้างที่ 3-2 (งานโยธาสำหรับงานอุโมงค์ ช่วงมวกเหล็กและลำตะคอง) ออกไปอีก 181 วัน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เลื่อนเป็นวันที่ 5 ธันวาคม 2568

สาเหตุของการขยายสัญญาเกิดจากการที่ รฟท. ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนงาน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดปัญหาการเวนคืน ส่งผลกระทบต่องานก่อสร้างคันทางรถไฟและสะพาน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน รฟท. ได้ส่งมอบพื้นที่เวนคืนในส่วนนี้ให้ผู้รับจ้างครบถ้วน 100% แล้ว และได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่ปรับใหม่ ทั้งนี้ การขยายสัญญาดังกล่าวไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ จากผู้รับจ้างและที่ปรึกษา และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการโดยรวม

สำหรับสัญญาที่ 3-2 นี้ มีมูลค่ากว่า 4,279 ล้านบาท ครอบคลุมงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟระยะทาง 8 กิโลเมตร คันทางรถไฟระดับดิน และโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ รวมถึงอาคารรองรับงานระบบรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้ว 90.94%