เรื่องราวการหายตัวไปของวัยรุ่นชาวอังกฤษในประเทศไทย ได้พลิกผันอย่างไม่คาดฝัน เมื่อล่าสุดมีรายงานว่าเธอถูกจับกุมในประเทศจอร์เจีย พร้อมของกลางเป็นยาเสพติดในปริมาณมหาศาล

สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของนางสาวเบลล่า เมย์ คัลลีย์ (Bella May Culley) วัย 18 ปี จากเมืองบิลลิงแฮม มณฑลเดอรัม ประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเธอหายตัวไปขณะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่ล่าสุดกลับมีรายงานยืนยันว่า เธอไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศจอร์เจียจับกุมตัวได้ที่สนามบินนานาชาติทบิลิซี (Tbilisi International Airport) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจอร์เจีย เปิดเผยว่า นางสาวคัลลีย์ถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของเธอและพบกัญชาปริมาณมากถึง 12 กิโลกรัม รวมถึงยาเสพติดประเภทกัญชาอื่นๆ อีกกว่า 2 กิโลกรัม รวมน้ำหนักยาเสพติดที่ยึดได้ทั้งหมดประมาณ 14 กิโลกรัม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจอร์เจีย ได้ตั้งข้อหานางสาวคัลลีย์อย่างร้ายแรงในข้อหา “ซื้อและครอบครองยาเสพติดปริมาณมากโดยผิดกฎหมาย รวมถึงซื้อและครอบครองกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย และนำเข้ายาเสพติดดังกล่าวมายังรัฐจอร์เจียโดยผิดกฎหมาย” ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมายของประเทศจอร์เจีย

ตามกฎหมายของจอร์เจีย หากนางสาวคัลลีย์ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาดังกล่าว เธออาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกที่รุนแรงมาก คือ สูงสุดถึง 20 ปี หรืออาจถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต

จากการรายงานข่าวเบื้องต้น นางสาวคัลลีย์ไม่ได้ให้การใดๆ ในระหว่างการพิจารณาคดีครั้งแรกของเธอ และขณะนี้เธอถูกส่งตัวไปควบคุมที่สถานกักขังก่อนการพิจารณาคดีสำหรับผู้หญิง ในเมืองรุสตาวี (Rustavi) ประเทศจอร์เจีย เพื่อรอการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อนางสาวคัลลีย์ถูกรายงานว่าหายตัวไปในประเทศไทย ทำให้ครอบครัวและญาติมิตรเป็นกังวลอย่างมาก นีล คัลลีย์ (Neil Culley) ผู้เป็นพ่อ และป้าของเธอ ได้ตัดสินใจเดินทางมายังกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเร่งติดตามหาเบาะแสและข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของเธอ หลังจากที่ไม่สามารถติดต่อเธอได้เลย

ครอบครัวของนางสาวคัลลีย์ เพิ่งจะได้รับทราบข่าวที่น่าตกใจเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ลูกสาวไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่กลับถูกจับกุมอยู่ที่ประเทศจอร์เจีย ทำให้คุณพ่อนีล คัลลีย์ ต้องเปลี่ยนเส้นทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจอร์เจียในทันที เพื่อติดตามเรื่องราวและให้ความช่วยเหลือลูกสาว

สำหรับความเคลื่อนไหวของนางสาวคัลลีย์ ก่อนที่จะถูกจับกุมนั้น จากข้อมูลในโซเชียลมีเดีย พบว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เธอได้โพสต์วิดีโอผ่านบัญชีติ๊กต็อก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นภาพของเธอขณะอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมข้อความว่า “ต้องการอ้อมกอด แต่กลับตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตแทน และค้นพบความสงบสุขในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของประเทศอื่น”

จากนั้น ในวันที่ 3 พฤษภาคม เธอได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย และมีการโพสต์ภาพกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งการดำน้ำตื้น การเยี่ยมชมถ้ำ และการดูเต่าทะเล โดยโพสต์สุดท้ายของเธอคือเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งวันก่อนที่จะมีรายงานแจ้งว่าเธอหายตัวไป

ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ได้ออกมายืนยันการควบคุมตัวนางสาวคัลลีย์ในประเทศจอร์เจีย และระบุว่าพวกเขากำลังให้ความช่วยเหลือครอบครัวของวัยรุ่นคนดังกล่าวอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทางตำรวจคลีฟแลนด์ (Cleveland Police) ซึ่งเป็นหน่วยงานตำรวจในพื้นที่บ้านเกิดของนางสาวคัลลีย์ในอังกฤษ ก็ได้ยืนยันข้อมูลการควบคุมตัวเธอในประเทศจอร์เจียเช่นกัน

เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทสรุปที่น่าตกใจสำหรับเรื่องราวการหายตัวไปที่เริ่มต้นในประเทศไทย แต่กลับไปจบลงด้วยคดีร้ายแรงที่ประเทศจอร์เจีย และเน้นย้ำถึงความเสี่ยงในการเดินทางข้ามประเทศที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด