เชียงใหม่ – ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ลุยปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ บุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ใน 2 ร้านค้า ที่แอบลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอให้กับเยาวชน โดยเฉพาะร้านหนึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาเพียง 600 เมตรเท่านั้น ยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ว่า พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงค์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 (รอง ผบก.สส.ภ.5) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษภาค 5 (กก.ปพ.บก.สส.ภ.5) เข้าปฏิบัติการกวาดล้างตามนโยบาย หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายและสิ่งเสพติดให้กับเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยการปฏิบัติการครั้งแรก เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบริเวณถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และสามารถจับกุม นายชัย นามสมมุติ อายุ 24 ปี และนางสาวพร นามสมมุติ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้า 24 อัน, หัวพอต 30 อัน, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติม 156 อัน, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 27 อัน, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติมน้ำยา 10 อัน, หัวเติมน้ำยา 9 กล่อง, หัวพอตใช้แล้วทิ้ง 63 อัน, หัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 27 กล่อง รวมถึงโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA PCX สีดำ อีก 1 คัน

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสองราย ในความผิดฐาน ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซื้อ รับไว้ โดยประการใด ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามฯ และให้บริการขายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือด้วยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ

จากการสอบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวน กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหมื่นด้ามพร้าคต ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และได้จับกุม นายลักษณ์ นามสมมุติ อายุ 22 ปี พร้อมของกลางที่น่าตกใจยิ่งกว่า ประกอบด้วย ยาแก้ไอ 16 ขวด, ยาแก้แพ้ยี่ห้อต่างๆ รวม 144 ขวด, ยาแก้ปวด 126 แผง (แผงละ 10 เม็ด) และน้ำกระท่อม 5 ขวด

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่นายลักษณ์ ในความผิดฐาน ผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำหรับ ที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดฯ และมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 (ยาแก้ไอ/แก้แพ้) ไว้ในความครอบครองเกินที่กฎหมายกำหนดโดยผิดกฎหมาย ซึ่งของกลางเหล่านี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่านำไปผสมกับน้ำกระท่อมเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านพักแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานศึกษาเพียง 600 เมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นแหล่งที่เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย

ด้าน พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงค์ รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาในคดีบุหรี่ไฟฟ้ามีการลักลอบจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชัน LINE จากการขยายผลจึงนำไปสู่การจับกุมผู้ที่ลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอรสชาติต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในพื้นที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป เพื่อตัดวงจรการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเยาวชน