กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือติดตามมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อติดตามความก้าวหน้าการทำงานในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่สำคัญ ทั้งบริเวณชายแดน ร้านค้า และช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์

การประชุมครั้งนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน ผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่เน้นย้ำให้มีการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง

ในที่ประชุม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รายงานผลการดำเนินงานและสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

ผลการรวบรวมข้อมูลในช่วงระยะเวลาดังกล่าว พบว่ามีการจับกุมคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสิ้น 2,592 คดี และสามารถยึดของกลางได้จำนวนมากถึง 1,697,550 ชิ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมของกลางทั้งหมดกว่า 554 ล้านบาท ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามและความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ สคบ. ยังได้รายงานสถิติการรับแจ้งเบาะแสผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเพื่อปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้:

• ช่วงแรก (19 มีนาคม 2568 – 15 เมษายน 2568): มีการรับแจ้งเบาะแสรวม 8,480 คดี ซึ่งนำไปสู่การจับกุมแล้ว 19 คดี ตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิด 1,335 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบและสืบสวน 4,338 คดี
• ช่วงที่สอง (16 เมษายน 2568 – 14 พฤษภาคม 2568): มีการรับแจ้งเบาะแสเข้ามาอีก 5,951 คดี ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ

รวมสถิติการรับแจ้งเบาะแสผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ถึง 14 พฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 14,431 คดี ตัวเลขการแจ้งเบาะแสที่สูง แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของประชาชนในการมีส่วนร่วมต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้สินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้เข้าสู่ประเทศและกระจายไปถึงมือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

มาตรการปราบปรามและสร้างความตระหนักรู้จะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสุขภาพและสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า