กรุงเทพฯ — ดูเหมือนว่าคำว่า “คนไทยรักแซลมอนและซาบะ” อาจเป็นเพียงการกล่าวที่น้อยเกินไปสำหรับความนิยมของอาหารทะเลนอร์เวย์ในประเทศไทย โดยข้อมูลล่าสุดจากสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (Norwegian Seafood Council) เผยว่า การส่งออกแซลมอนสด ปลาแมคเคอเรล (ซาบะ) และฟยอร์ดเทราต์ (Fjord Trout) จากนอร์เวย์มายังประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตถึง 12% ในปี 2024 ที่ผ่านมา

คุณแอชิลด์ แนคเคน (Ashild Nakken) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ กล่าวในการรับประทานอาหารกลางวันพิเศษที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า สำหรับปี 2025 ตัวเลขการส่งออกแซลมอนและฟยอร์ดเทราต์ได้เพิ่มขึ้นแล้วถึง “18% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง”

คุณแนคเคน เสริมว่า ในขณะที่เมื่อ 20 ปีก่อน อาหารทะเลนอร์เวย์ที่มาถึงประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นแบบแช่แข็ง แต่ปัจจุบัน 90% ของอาหารทะเลเหล่านี้เดินทางมาถึงในรูปแบบสด โดยขนส่งทางอากาศ รวมถึงผ่านสายการบินไทย ซึ่งตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาได้กลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงทุกวันระหว่างกรุงเทพฯ และออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์

งานเลี้ยงอาหารกลางวันพิเศษ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ จัดขึ้นเพื่อฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-นอร์เวย์ ครบรอบ 120 ปี โดยเชิญตัวแทนสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆ เข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส ที่รังสรรค์โดยเชฟจิ๊บ-ชพรภัสร์ ดาภาชุติสันต์ หัวหน้าเชฟของร้านอาหารเซลล์ดอน (Celadon) โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ ซึ่งมี Chef Table ของตัวเองในกรุงเทพฯ เช่นกัน

อาหารกลางวันนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแซลมอนนอร์เวย์ ซาบะ ฟยอร์ดเทราต์ และกุ้งน้ำเย็น (cold-water prawn) ในการนำมาประกอบอาหารไทยรสเลิศได้อย่างไร้ขีดจำกัด อาทิ ปลาซาบะนอร์เวย์ย่างกับน้ำพริกหมูลาบเหนือและหน่อไม้ดอง, แซลมอนนอร์เวย์ดองน้ำปลาเสิร์ฟพร้อมลูกแพร์และซอสมินต์พริก, ต้มข่าฟยอร์ดเทราต์ส้มและมะพร้าวอ่อน, น้ำพริกอ่องกุ้งน้ำเย็น เป็นต้น

เชฟจิ๊บ กล่าวกับแขกผู้ร่วมงานว่า ปลาซาบะนอร์เวย์ ซึ่งมีลายเป็นริ้วเสือ มีไขมันสูงและรสชาติดีเป็นพิเศษ สามารถนำไปทอดได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน และปรุงรสเพียงเล็กน้อยหรือไม่ปรุงเลยก็อร่อย

ระหว่างการรับประทานอาหารกลางวันที่เป็นเอกสิทธิ์ คุณแอชิลด์ แนคเคน เปิดเผยกับคุณประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าว Khaosod English ว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยเวียดนามและสิงคโปร์ และประมาณ 90% ของการส่งออกอาหารทะเลนอร์เวย์มาไทยคือแซลมอน

สายการบินไทยได้ร่วมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 120 ปี ของทั้งสองประเทศ โดยร่วมมือกับสถานทูตนอร์เวย์และสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ จัดแคมเปญ “จากทะเลสู่ฟ้า: 120 ปีแห่งมิตรภาพ” (From Sea to Sky: 120 Years of Friendship) ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีของการกลับมาบินตรงทุกวันระหว่างกรุงเทพฯ และออสโลด้วย โดยแคมเปญนี้มอบรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ออสโล จำนวน 6 รางวัล มูลค่า 390,000 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลนอร์เวย์ ณ ร้านค้าและร้านอาหารที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

แคมเปญนี้สำหรับผู้ที่ซื้อปลาซาบะนอร์เวย์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายน และจะตามด้วยแคมเปญสำหรับแซลมอน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม

คุณภีร์ลักษ์ สกุลทอง หัวหน้าทีมดูแลประเทศนอร์ดิกของสายการบินไทย กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า แคมเปญนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพระหว่างสองประเทศที่จะยั่งยืนตลอดไป

ผู้บริหารสายการบินไทย เสริมว่า แม้ว่าอาหารทะเลนอร์เวย์ประมาณ 15-18 ตัน จะถูกขนส่งด้วยเที่ยวบิน TG ทุกวัน บางส่วนก็ส่งต่อไปยังสิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในทางกลับกัน คนไทยจำนวนมากก็เดินทางไปนอร์เวย์เพื่อชมปรากฏการณ์แสงเหนือ

คุณเทีย มาร์ติเน่ ออตต์มานน์ (Thea Martine Ottmann) รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อุปทูต ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ โดยกล่าวว่า ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับนอร์เวย์ตั้งแต่ปีแรกที่นอร์เวย์ได้รับเอกราชในปี 1905

“ประเทศไทยเป็นเพื่อนของเราตั้งแต่เริ่มต้น” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่า เธอตั้งตารอคอยที่จะเห็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ลงนามกับนอร์เวย์ภายใต้กลุ่ม EFTA (ซึ่งรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์) มีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2026