สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ประกาศนโยบายสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการตัดสิน ด้วยการดึงผู้ตัดสินระดับ FIFA Elite จากประเทศเกาหลีใต้ และประเทศจีน เข้ามาทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอล รีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024/25 รอบรองชนะเลิศ ทั้ง 2 คู่ ที่จะฟาดแข้งกันในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้

การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างความโปร่งใสให้กับการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ โดยเฉพาะในเกมสำคัญที่มีผลต่อการเข้ารอบชิงชนะเลิศ

สำหรับผู้ตัดสินที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในรอบรองชนะเลิศ รีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024/25 ประกอบด้วย:

• วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568: ผู้ตัดสินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ Mr. Zhang Lei อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ตัดสินระดับ FIFA Elite ที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ
• วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568: ผู้ตัดสินจากสาธารณรัฐเกาหลี คือ Mr. CHAE Sanghyeop อายุ 35 ปี ผู้ตัดสินระดับ FIFA Elite อีกท่านที่จะมาช่วยยกระดับมาตรฐานการตัดสินในเกมสำคัญ

การแข่งขันฟุตบอลรายการ รีโว่ คัพ 2024/25 รอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันที่ 17 และ 18 พฤษภาคม 2568 โดยเป็นการพบกันระหว่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ลำพูน วอร์ริเออร์ กับ ราชบุรี เอฟซี โดยทั้งสองคู่จะแข่งขันแบบน็อกเอาต์ หากจบ 90 นาที แล้วทั้งสองทีมยังเสมอกัน จะทำการต่อเวลาพิเศษครึ่งละ 15 นาที และหากยังไม่สามารถหาผู้ชนะได้ จะตัดสินด้วยการเตะลูกโทษ เพื่อหาทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของรอบรองชนะเลิศ คือ การนำเทคโนโลยี Video Assistant Referee หรือ VAR เข้ามาช่วยเหลือในการตัดสิน เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดในการตัดสินใจของผู้ช่วยผู้ตัดสินในสนาม

สำหรับทีมผู้ชนะจากทั้งสองคู่จะได้สิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่สนาม บีจี สเตเดียม

รายการฟุตบอล รีโว่ คัพ ถือเป็นหนึ่งในถ้วยการแข่งขันที่สำคัญและมีเกียรติของวงการฟุตบอลไทย โดยทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 5,000,000 บาท ขณะที่ทีมรองชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท นอกจากนี้ ทุกทีมที่เป็นทีมเยือนตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยังได้รับการสนับสนุนค่าเดินทางทีมละ 50,000 บาท

การนำผู้ตัดสินระดับ FIFA Elite จากต่างประเทศเข้ามาทำหน้าที่ในเกมสำคัญนี้ คาดว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักกีฬา สโมสร และแฟนบอล ว่าการตัดสินจะเป็นไปอย่างยุติธรรมและได้มาตรฐานระดับสากล