ศรีสุวรรณ ยื่น กกต. สอบปม ‘ซื้อขาย สส.งูเห่า’ อ้างผิดกฎหมายพรรคการเมือง

ศรีสุวรรณ หอบหลักฐาน บุก กกต. ร้องสอบพรรคการเมือง-สส.ซื้อขาย สส.งูเห่า ผิดกฎหมายหรือไม่

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อ นายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต. เพื่อขอให้ดำเนินการสืบสวนและไต่สวน กรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า อาจมีการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการซื้อขายตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หรือที่ถูกเรียกขานว่า ‘สส.งูเห่า’

นายศรีสุวรรณ ได้นำพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบการยื่นคำร้อง โดยระบุว่า มีเบาะแสที่น่าเชื่อถือว่ามีการเสนอผลประโยชน์จำนวนมหาศาล เพื่อจูงใจให้ สส. ย้ายพรรค โดยข้อเสนอดังกล่าวรวมถึงเงินจำนวน 55 ล้านบาท พร้อมด้วยเงินเดือนที่จะเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 250,000 บาท และรถตู้ยี่ห้อหรูอีก 1 คัน

ข้อสงสัยนี้มีที่มาจากเหตุการณ์ที่ สส. ของพรรคการเมืองหนึ่ง ได้ขึ้นปราศรัยในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ผ่านมา โดยเปิดเผยต่อสาธารณะว่า มีผู้แทนของอีกพรรคการเมืองหนึ่งได้ยื่นข้อเสนอให้เงินและทรัพย์สินดังกล่าวแก่ตนเอง เพื่อให้ย้ายไปสังกัดพรรคดังกล่าว

ต่อมา สถานการณ์ยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อมี สส. ของพรรคที่ปราศรัยถึงเรื่องนี้ ได้ประกาศและทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค เพื่อขอยุติบทบาทในพรรคเดิม และแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะขอย้ายไปอยู่กับอีกพรรคหนึ่ง โดยให้เหตุผลเรื่องอุดมการณ์และการทำงานที่ไม่สอดคล้องกัน ซึ่งประเด็นนี้ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน

นายศรีสุวรรณ ยืนยันว่า กรณีนี้ถือเป็นความผิดปกติทางการเมืองที่ร้ายแรง และเป็นพฤติการณ์ที่สังคมไทยไม่ควรเพิกเฉยหรือยอมรับได้ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นอกจากนี้ การเสนอให้ หรือรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้บุคคลสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค หรือการเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากพรรคการเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกนั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในมาตรา 30 และมาตรา 31

ด้วยประเด็นดังกล่าวเป็นที่รับรู้และวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง นายศรีสุวรรณ เห็นว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ มาตรา 6 และ 7 ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ โดยมาตราเหล่านี้กำหนดให้เลขาธิการ กกต. ทำหน้าที่นายทะเบียน และมีอำนาจเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้คำชี้แจง หรือให้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาได้

ดังนั้น เพื่อให้ความจริงเป็นที่ประจักษ์และดำเนินการตามกฎหมาย นายศรีสุวรรณ จึงได้นำพยานหลักฐานและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมายื่นต่อ กกต. ในวันนี้ เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนและไต่สวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และพิจารณาลงโทษพรรคการเมือง หรือ สส. ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายการซื้อขายตำแหน่งหรือย้ายพรรคด้วยผลประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *