หน่อย บุษกร นักแสดงและอดีตผู้จัดละครชื่อดัง เปิดใจถึงการตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นผู้จัดละครอย่างเป็นทางการ พร้อมปิดบริษัทแล้ว โดยเผยสาเหตุมาจากความรู้สึก “หมดไฟ” และสถานการณ์วิกฤตในอุตสาหกรรมละครปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หน่อย บุษกร ได้มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวรายการ “BOYS VIBE THE PROJECT” ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตการทำงาน โดยยอมรับว่าการเป็นผู้จัดนั้นมีความเครียดสูง ต้องรับผิดชอบตั้งแต่การเลือกเรื่อง การขายงาน ไปจนถึงการบริหารทีมงาน ซึ่งแตกต่างจากการเป็นนักแสดงที่เพียงแค่ทำหน้าที่ตามบทบาทที่ได้รับ

“เหมือนเราหมดไฟ ต้องยอมรับว่าเราอยากไปทำอะไรที่เราอยากทำ ก็คิดถึงการเล่นละคร… ด้วยช่วงที่เจอวิกฤตละครด้วย เราก็เลยได้มาคุยกับตัวเองว่าสิ่งที่เราอยากจะทำมันก็คงไม่ได้ ไม่ตรงความต้องการของตลาด ทั้งหมดนี้คือฟางเส้นสุดท้ายเลย ตอนนี้บริษัทก็ไม่มีแล้ว คืนทุกอย่างไปหมดแล้ว” หน่อย บุษกร กล่าว

เธอกล่าวต่อว่า แม้จะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ก็ทำใจยอมรับและมองว่าเป็นเรื่องปกติของวงการ ยอมรับว่าการปิดบริษัทเป็นการตัดสินใจร่วมกับสามี เคน ธีรเดช ซึ่งเห็นด้วยมาโดยตลอด “มันเป็นอะไรที่เครียดนะ มันไม่เหมือนกับเราเล่นละคร เราก็ทำบทของเรา รับผิดชอบเล่นตามบทของเราแล้วก็กลับบ้านไปโล่งๆ สบายใจกว่า”

หลังจากยุติบทบาทผู้จัด หน่อย บุษกร ได้หวนคืนสู่การแสดงเต็มตัว โดยรับละครไว้แล้วถึง 3 เรื่อง และภาพยนตร์อีก 1 เรื่อง เธอบอกว่ารู้สึกสนุกกับการกลับมาแสดงในยุคนี้ “สนุกนะ คือชอบมาตั้งแต่เรื่อย่อแล้วว่ามันทันสมัยดี ได้เจอน้องๆ พี่ๆ ในวงการ เป็นอะไรที่สนุกดี” เธอบอกว่าห่างละครมา 3 ปี และการกลับมาครั้งนี้ได้เลือกบทบาทที่หลากหลาย น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องหนึ่งที่พลิกคาแรคเตอร์จากที่เคยเล่นร้ายมาตลอด

นอกจากข่าวการกลับมาแสดงของ หน่อย บุษกร แล้ว เธอยังได้เผยถึงก้าวแรกของลูกชายทั้งสองคน น้องคุน และ น้องจุน ในวงการบันเทิงด้วย โดย น้องคุน (พี่ชายวัย 15 ปี) สนใจงานเบื้องหลัง ชอบทำหนังเอง เขียนบท กำกับ และถ่ายทำ ซึ่งล่าสุดภาพยนตร์สั้นที่น้องคุนสร้างสรรค์ก็ได้ส่งเข้าประกวดในต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ และได้รับรางวัลมาถึง 7 รางวัลในหลายสาขา ทั้งผู้กำกับยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และภาพ โดยหน่อยชมว่าผลงานของลูกชาย “อาร์ตตัวลูก” มีเนื้อหาที่ลึกซึ้งเกินกว่าวัย 15 ปีที่คิดเรื่องความตายหรือครอบครัว

ส่วน น้องจุน (น้องชาย) สนใจงานเบื้องหน้า ได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ ซึ่งเกิดขึ้นจากความบังเอิญที่ไปกับพี่ชายในการแคสติ้ง แต่กลับเป็นน้องจุนที่ได้รับบทบาท เมื่อได้ลองแล้วน้องจุนก็รู้สึกสนุกและชอบการแสดง “ตัวพี่ชอบเบื้องหลัง ตัวน้องชอบเบื้องหน้า บางทีพี่จะเป็นคนถ่ายให้น้องเป็นนักแสดงให้พี่”

หน่อย บุษกร กล่าวว่า เธอสนับสนุนเส้นทางของลูกๆ อย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้ให้คำแนะนำโดยตรงเหมือน เคน ธีรเดช ที่จะชอบคุยเรื่องงานกับลูก แต่ก็พร้อมซัพพอร์ตและเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ เธอมองว่านี่คือ “อุตสาหกรรมครอบครัวที่ติสต์มาก” และมีความสุขกับการเติบโตและเส้นทางที่ลูกๆ เลือก

สำหรับ เคน ธีรเดช ก็มีผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายเช่นกัน