สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้ออกแถลงการณ์โจมตีอย่างรุนแรงต่อ นายจานนี อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) โดยกล่าวหาว่าเขามีพฤติกรรมที่มุ่งหาผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัว หลังเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสามัญฟีฟ่าครั้งล่าสุดล่าช้ากว่ากำหนดอย่างมาก จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของการประชุม

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมสามัญฟีฟ่าครั้งที่ 75 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศปารากวัย เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ นายอินฟานติโน่ได้เดินทางไปร่วมคณะของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในภารกิจกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตที่ภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยนายอินฟานติโน่ได้ชี้แจงว่า การเดินทางครั้งนี้ทำให้เขาได้เป็นตัวแทนของวงการฟุตบอลในการหารือที่สำคัญกับบรรดาผู้นำระดับโลก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกีฬาฟุตบอล

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อนายอินฟานติโน่ ซึ่งเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวตรงจากประเทศกาตาร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสามัญฟีฟ่าครั้งล่าสุด กลับมาถึงสถานที่จัดประชุมล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ถึง 2 ชั่วโมง 17 นาที การมาสายของประธานฟีฟ่าส่งผลกระทบโดยตรง ทำให้การประชุมทั้งหมดต้องเริ่มต้นล่าช้ากว่ากำหนดเดิมไปถึงกว่า 3 ชั่วโมง

จากสถานการณ์ดังกล่าว ตัวแทนกลุ่มประเทศสมาชิกของยูฟ่า ซึ่งนำโดย นายอเล็กซานเดอร์ เชเฟริน ประธานยูฟ่า ได้แสดงการไม่พอใจอย่างชัดเจน ด้วยการเดินออกจากที่ประชุมกลางคันในช่วงพักเบรก

ต่อมา สหพันธ์ฟุตบอลยุโรปได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เน้นย้ำว่า องค์กรมีความจำเป็นต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องนี้ แถลงการณ์ของยูฟ่าระบุว่า “การเปลี่ยนกำหนดการในนาทีสุดท้ายนั้น ดูเหมือนจะเกิดขึ้นเพียงเพื่อรองรับผลประโยชน์ทางการเมืองแบบส่วนตัว สมาชิกยูฟ่าจึงรู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องเน้นย้ำว่า ผลประโยชน์ของกีฬาต้องมาก่อน และกำหนดการต้องดำเนินตามปกติ”

แถลงการณ์ของยูฟ่าตอกย้ำถึงความตึงเครียดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสององค์กรฟุตบอลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกอย่างฟีฟ่าและยูฟ่า โดยมีประเด็นการจัดลำดับความสำคัญและผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้นำเป็นชนวน