กาญจนบุรี – ความคืบหน้ากรณี ดีเจเตเต้ หรือ นายวราพงษ์ อายุ 33 ปี ถูกกลุ่มบุคคล อุ้มหายปริศนา เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริเวณหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 ซอย 7 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนสาวของ ดีเจเตเต้ ได้เข้าแจ้งความแล้ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 16 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายวิเชียร อายุ 58 ปี คุณพ่อของ ดีเจเตเต้ ได้ตัดสินใจขับรถจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมง เดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง หวังเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหาตัวลูกชายที่ถูกอุ้มหายไปกลับมาอย่างปลอดภัย

นายวิเชียร เล่าด้วยความเป็นห่วงว่า ได้รับแจ้งจาก น.ส.เปรมยุดา แฟนสาวของลูกชายว่า ดีเจเตเต้ หายตัวไปอย่างผิดปกติ และคาดว่าถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มไป ตนจึงโพสต์เรื่องราวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอความช่วยเหลือและเบาะแส

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน ก็มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทของลูกชาย ทักข้อความมาขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าคดีกำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของตำรวจ และการโพสต์อาจจะทำให้การทำงานยากขึ้น ตนจึงยินยอมลบโพสต์ แต่ก็ยังคงพยายามทุกวิถีทางที่จะให้มีผู้เข้ามาช่วยเหลือติดตามหาลูกชาย จนกระทั่งได้ปรึกษาเพื่อนที่เป็นผู้สื่อข่าวและส่งข้อมูลพร้อมคลิปเหตุการณ์ให้ จนเรื่องราวกลายเป็นข่าวในที่สุด

การเดินทางมากาญจนบุรีครั้งนี้ ด้วยระยะทางกว่า 12 ชั่วโมง คือความตั้งใจที่จะมาแจ้งความด้วยตนเอง เพราะเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบตัวลูกชาย ทำให้ครอบครัวเป็นกังวลอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ทราบเรื่องและเดินทางมายัง สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อพบและพูดคุยกับนายวิเชียร ก่อนจะพาคุณพ่อเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์อย่างเป็นทางการ

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า ตนมีวัตถุประสงค์หลักเพียงอย่างเดียวคือต้องการช่วยเร่งรัดให้ตำรวจติดตามหาตัวนายวราพงษ์ ซึ่งหายตัวไปเกือบ 3 วันแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รอไม่ได้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่หากเวลาผ่านไปแล้วยังไม่พบตัว ตนก็จะพาคุณพ่อของนายวราพงษ์เดินทางไปยังกองปราบปราม เพื่อแจ้งความและขอให้ตำรวจกองปราบฯ เข้ามาช่วยทำคดีนี้

ภายหลังเข้าให้ข้อมูลและแจ้งความเสร็จสิ้น ทนายรณรงค์ และนายวิเชียร ยังได้ร่วมกันจุดธูปบนบานศาลกล่าวที่ศาลพระภูมิภายใน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวนายวราพงษ์กลับมาได้อย่างปลอดภัยโดยเร็ว

ในส่วนข้อมูลจากผับที่ ดีเจเตเต้ ไปรับงานก่อนถูกอุ้มตัวหายไปนั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายธนา ผู้จัดการผับ ได้รับข้อมูลว่า ดีเจเตเต้ ไม่ได้เป็นพนักงานของร้าน แต่เดินทางมารับงานเอนเตอร์เทนลูกค้าหญิงรายหนึ่งที่มาจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดภายในร้าน

คืนเกิดเหตุ โต๊ะของ ดีเจเตเต้ มีผู้ร่วมงานประมาณ 10 กว่าคน เป็นผู้หญิงราว 8 คน และผู้ชาย 4 คน เท่าที่ตนสังเกตไม่พบว่า ดีเจเตเต้ มีปัญหาหรือทะเลาะเบาะแว้งกับลูกค้ารายอื่นแต่อย่างใด

หลังผับปิด ดีเจเตเต้ ก็เดินออกจากร้านไปตามปกติ ไม่ได้มีท่าทีว่าจะถูกอุ้มตัวหายไป

หลังจากที่แฟนสาวของ ดีเจเตเต้ เข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านและบริเวณหน้าร้าน ซึ่งบันทึกภาพขณะ ดีเจเตเต้ เดินออกมากับกลุ่มเพื่อนก่อนจะไปขึ้นรถและถูกอุ้มตัวหายไป เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามคนร้ายและนำตัว ดีเจเตเต้ กลับคืนสู่ครอบครัวที่กำลังเฝ้ารออย่างมีความหวังต่อไป