แม่ฮีโร่ช่วยลูก! หนุ่มคลั่งบุกบ้านหวังข่มขืน ด.ญ. 5 ขวบ โดนเตารีดฟาดหัว ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เลือดอาบ
อุดรธานี – เหตุการณ์สุดสะเทือนใจและชวนให้โกรธแค้นเกิดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เมื่อมีรายงานข่าวเกี่ยวกับชายวัย 29 ปี ที่มีประวัติป่วยทางจิตและใช้สารเสพติด ก่อเหตุอุกอาจบุกเข้าไปในบ้านชาวบ้าน และพยายามที่จะกระทำอนาจารเด็กหญิงวัยเพียง 5 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน แต่ความพยายามของคนร้ายก็ต้องหยุดลง เมื่อผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงได้เข้ามาเห็นเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือลูกสาวได้อย่างทันท่วงที ด้วยการคว้าเตารีดที่อยู่ใกล้ตัวฟาดเข้าที่ศีรษะของคนร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งทราบเรื่อง จะกรูเข้ามารุมประชาทัณฑ์คนร้ายด้วยความโกรธแค้น จนคนร้ายสะบักสะบอม เลือดอาบไปทั้งตัว ก่อนจะช่วยกันควบคุมตัวคนร้ายส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยชาวบ้านต่างเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุรายนี้ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลานานๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ออกมาก่อเหตุร้ายซ้ำอีก
รายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดยทราบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านบึงสังข์ หมู่ 3 ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ผู้ก่อเหตุคือนายปรีชา หรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่า นายหลอด อายุ 29 ปี ได้แอบบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน และตรงเข้าไปหาเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งกำลังเล่นอยู่ในบ้านคนเดียว ด้วยเจตนาที่จะข่มขืนกระทำชำเรา โดยนายปรีชาได้พยายามที่จะถอดกางเกงของเด็กหญิง
แต่ในขณะที่คนร้ายกำลังจะลงมืออย่างโหดเหี้ยม ผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงได้เดินเข้ามาในบริเวณนั้นและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่ต้องปกป้องลูกอย่างสุดชีวิต เธอได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว คว้าเตารีดที่เสียบปลั๊กเตรียมใช้งานอยู่ใกล้ๆ พุ่งเข้าใส่และใช้เตารีดฟาดไปที่ใบหน้าและศีรษะของนายปรีชาอย่างแรง การกระทำของแม่ทำให้คนร้ายตกใจและได้รับบาดเจ็บทันที มีเลือดไหลอาบใบหน้า ทำให้เขาต้องล้มเลิกความตั้งใจและรีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป โดยยังไม่ทันได้ลงมือข่มขืนเด็กได้สำเร็จแม้แต่น้อย
ทันทีที่นายปรีชาวิ่งหนีออกจากบ้าน ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายและทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่างรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมากต่อพฤติกรรมที่นายปรีชาพยายามจะทำกับเด็ก ชาวบ้านจำนวนมากจึงได้พากันออกไล่ติดตามจับตัวนายปรีชา ซึ่งวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตไปจนถึงบริเวณลำน้ำ เมื่อจับตัวนายปรีชาได้ ชาวบ้านซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นอย่างหนัก ได้กรูเข้ามารุมทำร้ายร่างกายนายปรีชาจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทั่วตัว สะบักสะบอมและเลือดอาบ ก่อนจะช่วยกันควบคุมตัวไว้และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาข่า มารับตัวไปดำเนินคดี
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรนาข่า เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี พบว่านายปรีชาถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภาพใบหน้าบวมปูดจากการถูกทำร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นแก่นายปรีชาในความผิดฐาน “บุกรุกในเคหะสถาน” และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทราบว่านายปรีชามีประวัติการป่วยทางจิตเวชที่ต้องได้รับการรักษา และยังมีพฤติกรรมติดสารระเหยอย่างรุนแรง โดยมีการดมกาวและทินเนอร์เป็นประจำ อีกทั้งยังมีรายงานว่าอาจมีการเสพยาบ้าร่วมด้วย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลต่อการควบคุมตนเองและเป็นสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างแสดงความรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากนายปรีชา และได้ฝากความหวังไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและกระบวนการยุติธรรม ขอให้มีการดำเนินคดีกับนายปรีชาอย่างเด็ดขาด และให้เขาได้รับโทษจำคุกเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อไม่ให้เขามีโอกาสกลับออกมาใช้ชีวิตในชุมชนและเสี่ยงต่อการก่อเหตุอันตรายร้ายแรงในลักษณะเดียวกันกับเด็กๆ อีกในอนาคต