สว.เปรมศักดิ์ เพียยุระ จี้ประธานวุฒิสภา เลื่อนวาระตั้ง กกต.-ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หวั่นขาดความสง่างาม เหตุ สว.ส่วนใหญ่กำลังถูกสอบ
สว.เปรมศักดิ์ เพียยุระ จี้ประธานวุฒิสภา เลื่อนวาระตั้ง กกต.-ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หวั่นขาดความสง่างาม เหตุ สว.ส่วนใหญ่กำลังถูกสอบ
นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภาอิสระ ได้ออกมาเรียกร้องให้ประธานวุฒิสภาพิจารณายับยั้งหรือเลื่อนการบรรจุระเบียบวาระพิจารณาแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระออกไปก่อน ในช่วงการประชุมสมัยวิสามัญที่จะมีขึ้นปลายเดือนพฤษภาคมนี้
นพ.เปรมศักดิ์ ชี้แจงว่า จุดประสงค์หลักของการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในครั้งนี้คือ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในวาระแรก แต่กลับพบว่าในส่วนของการประชุมวุฒิสภา มีการสอดแทรกวาระพิจารณาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญถึง 2 เรื่อง ได้แก่ การเตรียมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 1 คน และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน
เหตุผลสำคัญที่ นพ.เปรมศักดิ์ หยิบยกขึ้นมาคือ ขณะนี้สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่กำลังอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบที่มาที่ไปและคดีความต่างๆ จึงยังไม่สมควรที่จะเร่งรัดกระบวนการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญในองค์กรอิสระ
ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาไว้หลายประการ นอกจากการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย และการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญคือ การให้คำแนะนำหรือให้ความเห็นชอบบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ ตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), ผู้ตรวจการแผ่นดิน, คณะกรรมการและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน, คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และตำแหน่งตามกฎหมาย เช่น ประธานและตุลาการศาลปกครองสูงสุด, อัยการสูงสุด, เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นต้น การสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าสู่ตำแหน่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานขององค์กรอิสระ ให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม โปร่งใส และสร้างความยุติธรรมในการดำเนินงานของรัฐ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันน่าเป็นห่วง โดยมีรายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 55 คน ได้รับหมายเรียกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง โดยในจำนวนนี้มีทั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา รวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาในคดีอาญาร้ายแรงอื่นๆ เช่น การฟอกเงินและอั้งยี่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ที่มีสมาชิกวุฒิสภาประมาณ 140 คน อยู่ในข่ายที่ต้องคดี
นพ.เปรมศักดิ์ เห็นว่า การที่วุฒิสภาเร่งเดินหน้ากระบวนการสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระในช่วงเวลาที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากกำลังเผชิญกับการตรวจสอบและคดีความ ถือเป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมและขาดความสง่างามอย่างยิ่ง ไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของวุฒิสภา
ความกังวลของคุณหมอเปรมศักดิ์คือ หากการแต่งตั้งยังคงดำเนินต่อไป อาจนำไปสู่การที่องค์กรอิสระจะมีบุคคลที่มาจากเบื้องหลังซึ่งโยงใยกับพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองที่มีแนวทางเดียวกันทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระและความเป็นกลางขององค์กรเหล่านี้
ดังนั้น การระงับ ยับยั้ง หรือเลื่อนวาระการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระออกไป จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาข้อครหาและความไม่ไว้วางใจที่สังคมมีต่อการทำงานของวุฒิสภาชุดปัจจุบันได้