อว.-สอวช. เปิดตัว TNA ฉบับที่ 2 ยกระดับเทคโนโลยี รับมือโลกร้อน สู่เป้าหมาย Net Zero
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้จัดงานเปิดตัวโครงการการประเมินความต้องการเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (Technology Needs Assessment: TNA) ฉบับที่ 2 อย่างเป็นทางการ
งานนี้นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอว. ให้เกียรติเป็นประธานและกล่าวเปิดงาน
น.ส.ศุภมาส กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทอัน vital ของโครงการ TNA ในฐานะกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถคัดเลือกและพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งเชื่อมโยงโอกาสในการเข้าถึงการสนับสนุนจากนานาชาติ ทั้งในด้านองค์ความรู้และแหล่งทุน
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย โครงการ TNA จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้และเชื่อมโยงกับแหล่งทุนระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ และนำไปสู่เป้าหมายของประเทศในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608” รมว.อว. กล่าว
น.ส.ศุภมาส ยังได้กล่าวถึงบทบาทของกระทรวง อว. ในการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมด้านสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งเน้นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคส่วนสำคัญ เช่น พลังงาน การเกษตร อุตสาหกรรม และการจัดการของเสีย พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศในระยะยาว
ด้าน นายสุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. ในฐานะผู้ประสานงานโครงการ TNA ของประเทศไทย ได้บรรยายสรุปภาพรวมของโครงการ TNA ฉบับที่ 2 โดยอธิบายว่า TNA เป็นเครื่องมือที่พัฒนาภายใต้การสนับสนุนของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) และ UNEP Copenhagen Climate Centre (UNEP-CCC) เพื่อช่วยประเทศต่างๆ ระบุและจัดลำดับความสำคัญของเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการปรับตัว (Adaptation) และการบรรเทาผลกระทบ (Mitigation) จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายสุรชัย กล่าวว่า ประเทศไทยได้ดำเนินโครงการ TNA ฉบับที่ 1 เสร็จสิ้นไปแล้วในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล และสำหรับ TNA ฉบับที่ 2 นี้ จะเป็นการต่อยอดเพื่อกำหนดแนวทางพัฒนากลยุทธ์ แผนงาน และโครงการที่ spesific เพื่อการเข้าถึงแหล่งทุนระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก Global Environment Facility (GEF)
ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “TNA as a Catalyst: Unlocking Capital for Climate Technology” โดย Ms. Sara Traerup, Section Head, Technology – Transitions and System Innovation จาก UNEP-CCC ซึ่งได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของ TNA ในการเป็นตัวเร่งให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “ก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย” ซึ่งมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์
โครงการ TNA ฉบับที่ 2 นี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนากลยุทธ์และโครงการระดับประเทศที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในเวทีเจรจาระดับนานาชาติ เช่น การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) ในการขอรับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและการเงิน นับเป็นก้าวสำคัญของไทยในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำและยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ