ฮานอย, เวียดนาม – เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เดินทางเข้าพบหารือกับสองบริษัทเอกชนชั้นนำของเวียดนาม ณ โรงแรม Melia Hanoi กรุงฮานอย โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การลงทุน และนวัตกรรม เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางในภูมิภาค

การหารือครั้งแรกในเวลา 15.15 น. นายกรัฐมนตรีได้พบกับ นายเหวียน แทงห์ หุ่ง (Nguyen Thanh Hung) ประธานบริษัทและกลุ่ม SOVICO Group ซึ่งเป็นบริษัทที่มีธุรกิจครอบคลุมหลากหลาย ทั้งการบิน (สายการบิน Vietjet Air) พลังงาน และการเงิน น.ส.แพทองธาร ได้แสดงความชื่นชมความสำเร็จของ Vietjet Air และยืนยันความพร้อมของรัฐบาลไทยที่จะสนับสนุนแผนการขยายการลงทุนของ Thai Vietjet ในประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายมองเห็นศักยภาพมหาศาลในการขยายเส้นทางบินจากเวียดนามมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการค้าทวิภาคีได้อย่างดีเยี่ยม

น.ส.แพทองธาร ได้เน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยในการผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค พร้อมกับอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ จึงได้เชิญชวนให้ SOVICO Group พิจารณาการลงทุนในสาขาธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม ขณะที่ผู้บริหาร SOVICO Group ได้แสดงความสนใจอย่างยิ่งที่จะขยายธุรกิจการบินในไทย รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรและศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ซึ่งจะเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าต่ออุตสาหกรรมการบินของไทย

จากนั้นในเวลา 15.30 น. นายกรัฐมนตรีได้พบกับนายฝ่าม มิงห์ ถวน (Pham Minh Tuan) รองประธานบริหาร บริษัท FPT Corporation ผู้นำด้านเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และการศึกษาของเวียดนาม นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ FPT เข้ามาลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคตในไทย เช่น AI และ Data Cloud รวมถึงความร่วมมือล่าสุดระหว่าง FPT กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น

น.ส.แพทองธาร ได้ใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้ FPT พิจารณาการลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานระหว่างไทยและเวียดนาม รัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนเหล่านี้

ในการหารือกับทั้งสองบริษัท นายกรัฐมนตรีแพทองธารได้ย้ำถึงความพร้อมของรัฐบาลไทยในการอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนเวียดนาม เพื่อเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว และร่วมกันสร้างภูมิภาคให้เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี ด้วยความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศ จะเป็นกลไกสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามให้แน่นแฟ้นและก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน