ศาลออกหมายจับ ‘เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง’ คดีโกงเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท เล่นบาคาร่าออนไลน์ ‘จอนนี่มือปราบ’ ถามตรง ‘โฉนดวัดยังอยู่ไหม?’

นครปฐม – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายจับ พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีวัดกว่า 300 ล้านบาท เพื่อนำไปเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ สร้างความตกตะลึงให้กับสาธุชนและสังคมโดยทั่วไป

คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการตรวจสอบพบความผิดปกติทางการเงินของวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีผู้คนจำนวนมากให้ความศรัทธาและร่วมบริจาคเงิน ซึ่งเงินจำนวนมหาศาลกว่า 300 ล้านบาท ได้ถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารของวัดเข้าสู่บัญชีส่วนตัวของพระธรรมวชิรานุวัตร เพื่อนำไปใช้ในการเล่นพนันออนไลน์ ประเภทบาคาร่า

การกระทำนี้เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหลายมาตรา รวมถึงการเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังทุจริตทรัพย์นั้นไปเป็นของตนเอง และการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงเนื่องจากผู้กระทำมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐในฐานะเจ้าอาวาสและเจ้าคณะภาค

ล่าสุด วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ตำรวจมือปราบชื่อดัง อย่าง จอนนี่มือปราบ ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แสดงความเห็นและข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างตรงไปตรงมา โดยระบุว่า “ที่เหนือกว่าที่กูช็อกที่ทราบข่าวว่า เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โกงเงินวัด 300 ล้านบาทไปแทงบาคาร่าออนไลน์ก็คือ หลวงพ่อแทงไม่ถูกสักตาเลยเหรอครับ”

นอกจากนี้ จอนนี่มือปราบ ยังได้ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของทรัพย์สินอื่น ๆ ของวัด โดยเฉพาะที่ดินและอสังหาริมทรัพย์สำคัญ ๆ โดยกล่าวเน้นย้ำว่า “เช็กดีๆเด้อ วัดไร่ขิง โฉนดวัดยังอยู่บ่ เบิ่งส่อยกัน”

ท่าทีของจอนนี่มือปราบ สะท้อนถึงความกังวลของสาธารณชนต่อการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด และความโปร่งใสของผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนวนเงินมหาศาลและการนำเงินบุญไปใช้ในทางที่ผิด

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการติดตามจับกุม พระธรรมวชิรานุวัตร ตามหมายจับที่ออกโดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทำการสอบสวนขยายผลถึงเส้นทางการเงินและการจัดการทรัพย์สินอื่น ๆ ของวัดต่อไป ประเด็นเรื่องโฉนดที่ดินของวัดที่จอนนี่มือปราบตั้งข้อสังเกตไว้ ก็เป็นอีกจุดที่สังคมกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า จะมีผลกระทบต่อทรัพย์สินถาวรของวัดหรือไม่

คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตรวจสอบและกำกับดูแลการเงินของวัดและองค์กรทางศาสนาให้มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เพื่อรักษาความศรัทธาของประชาชนและป้องกันการทุจริตในวงการผ้าเหลือง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *