ศาลเชียงใหม่พิพากษา ‘คดีโลกร้อน’ สั่งชาวลีซู 3 ราย จ่าย 1.5 แสน ปมบุกรุกอุทยานฯ – CPCR ชี้ประเมินค่าเสียหายไม่เป็นธรรม

เชียงใหม่ – ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีคำพิพากษาให้ชาวบ้านลีซู 3 ราย ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จ่ายค่าเสียหายจำนวน 150,000 บาท ในคดีที่ถูกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฟ้องร้องฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา โดยคดีนี้ถูกเรียกว่า ‘คดีโลกร้อน’ เนื่องจากมีการประเมินค่าเสียหายที่รวมถึง ‘ค่าเสียหายจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น’ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการประเมินที่ไม่เป็นธรรม

ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น (CPCR) รายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาในคดีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ลีซู 3 ราย ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ฐานบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา โดยเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 600,000 บาท

ตามรายงานของ CPCR กระบวนการประเมินค่าเสียหายในคดีนี้ได้ใช้ ‘โปรแกรมประเมินความเสียหาย’ ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวมีการคิดรวม ‘ค่าเสียหายจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น’ หรือผลกระทบที่เชื่อมโยงกับปรากฏการณ์โลกร้อนเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม การประเมินในส่วนนี้ไม่ได้อาศัยการวัดหรือใช้ข้อมูลอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจริงในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดข้อโต้แย้งและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายภาคส่วนว่าเป็นการประเมินที่ไม่เป็นธรรมและไม่สอดคล้องกับหลักความเป็นจริงในพื้นที่ นำมาสู่การเรียกขานคดีลักษณะนี้ว่า ‘คดีโลกร้อน’

แม้ว่าในชั้นฟ้องเดิม กรมอุทยานฯ จะเรียกค่าเสียหายสูงถึง 600,000 บาท แต่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้พิพากษาให้ชาวบ้านทั้ง 3 ราย ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท

ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการบุกรุกนั้น ปัจจุบันมีสภาพป่าที่ฟื้นคืนสภาพตามธรรมชาติแล้ว และที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐก็ไม่เคยเข้าไปดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวแต่อย่างใด การที่กรมอุทยานฯ กลับเรียกค่าเสียหายในจำนวนที่สูงมากถึงหกแสนกว่าบาท จึงเป็นการดำเนินการที่ดูสูงเกินควรและอาจไม่เป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่

คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการประเมินค่าเสียหายในคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อมีการนำปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ามาเกี่ยวข้อง และตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมและวิธีการคำนวณที่ใช้ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในระดับพื้นที่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *