เปิดตำนาน ‘หลวงปู่นาค ปุญญนาโค’ วัดหัวหิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้สร้างพระเครื่องสุดขลัง ‘พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน’
เปิดตำนาน ‘หลวงปู่นาค ปุญญนาโค’ วัดหัวหิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้สร้างพระเครื่องสุดขลัง ‘พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน’
‘พระครูวิริยาธิการี’ หรือ ‘หลวงปู่นาค ปุญญนาโค’ แห่งวัดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์สำคัญที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีตของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะชาวหัวหินมาอย่างยาวนาน เรื่องราวชีวิตและวัตถุมงคลของท่านยังคงเป็นที่กล่าวขานและเสาะหามาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน’ ที่ท่านเป็นผู้สร้างขึ้น
ประวัติและเส้นทางธรรม
หลวงปู่นาค มีนามเดิมว่า นาค สกุล พ่วงไป เกิดเมื่อปี พ.ศ.2400 ณ บ้านลัดโพ อำเภอคลองกระแซง จังหวัดเพชรบุรี ในวัยเด็กท่านได้ศึกษาอักขรสมัยเบื้องต้นที่วัดลัดโพ ก่อนจะย้ายไปเรียนพระปริยัติธรรมและบาลีธรรมที่วัดหลักป้อม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเวลาหลายปี
เมื่ออายุครบ 21 ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดหลังป้อม และเริ่มศึกษาด้านวิปัสสนาธุระ รวมถึงได้รับการถ่ายทอดวิชาพุทธาคมจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาจากหลวงพ่อเอี่ยม วัดลัดด่าน และหลวงพ่อภู่ วัดบางกะพ้อม
ในปี พ.ศ.2464 ท่านเคยลาสิกขาออกมาช่วยงานครอบครัว และมีครอบครัว แต่ต่อมาเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงตัดสินใจกลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งที่วัดโตนดหลวง จังหวัดเพชรบุรี ก่อนจะย้ายมาสร้างวัดวังก์พง ที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สู่เจ้าอาวาสวัดหัวหิน
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ชาวบ้านหัวหินได้ร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า วัดอัมพาราม ซึ่งต่อมาคือ วัดหัวหิน ในปัจจุบัน ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาและพุทธาคมของหลวงปู่นาค คณะกรรมการวัดและชาวบ้าน นำโดย ขุนศรีเสละคาม (พลอย กระแสสินธุ์), กำนันโต และผู้ใหญ่กล่ำ จึงได้ไปอาราธนาหลวงปู่นาคมาเป็นเจ้าอาวาส
นับตั้งแต่หลวงปู่นาคได้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดหัวหินให้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก จนกลายเป็นวัดสำคัญของอำเภอหัวหินมาจนถึงทุกวันนี้
ปฏิปทาและความสัมพันธ์กับราชสำนัก
หลวงปู่นาค เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานถึงพุทธาคมอันแก่กล้า ท่านมีเมตตาธรรมสูง มีอัธยาศัยรักสงบ เยือกเย็น และสุขุม พูดน้อย แต่คำสอนนั้นแฝงด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
ที่สำคัญคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชศรัทธาในหลวงปู่นาคเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่ทรงนับถือเสมือนศิษย์กับครู ทุกครั้งที่เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จะต้องเสด็จมานมัสการหลวงปู่นาคเสมอ และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้หลวงปู่นาคเข้าเฝ้าได้ตลอดเวลา แม้ในยามวิกาล
พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน วัตถุมงคลสำคัญ
นอกจากเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก วัตถุมงคลอีกชิ้นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการอย่างสูงของนักสะสม คือ ‘พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน’
วัดมฤคทายวัน เป็นวัดที่อยู่ติดกับพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยเมื่อพระองค์เสด็จมาประทับที่นี่ มักจะทรงสนทนาธรรมกับพระภิกษุผู้มีศีลาจารวัตรงดงาม หนึ่งในนั้นคือ หลวงปู่นาค ซึ่งในขณะนั้นท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน ก่อนจะย้ายมาครองวัดหัวหิน
พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2462 โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้หลวงปู่นาค ปุญญนาโค เป็นประธานในพิธีจัดสร้าง เพื่อพระราชทานให้กับข้าราชบริพารและราษฎรในโอกาสที่พระองค์เสด็จประทับแรม ณ พระราชนิเวศน์แห่งนี้
ลักษณะของพระสมเด็จวัดมฤคทายวัน เป็นพระเนื้อผงรูปทรงสี่เหลี่ยม คล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ปรกโพธิ์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มวลสารหลักประกอบด้วย ปูนเปลือกหอย แต่ที่สำคัญคือ ‘ผงตรีนิสิงเห’ ซึ่งเป็นผงวิเศษตามตำราที่ใช้ในการสร้างพระสมเด็จมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) จนถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทำให้พระเครื่องชุดนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
พระสมเด็จวัดมฤคทายวันมีการจัดสร้างมากกว่า 20 พิมพ์ อาทิ พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์, พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น, 7 ชั้น, พิมพ์นางกวัก และพิมพ์ชินราช ทุกพิมพ์ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สำหรับ พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ ด้านหน้าจะเป็นรูปองค์พระประธานประทับนั่งปางสมาธิอยู่เหนืออาสนะ ด้านหลังเป็นโพธิบัลลังก์ภายในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลังแม่พิมพ์เป็นยันต์ตรีนิสิงเห ถือเป็นพระพิมพ์ที่มีความงดงามและเป็นมิ่งมงคลแก่ผู้บูชายิ่งนัก
บั้นปลายชีวิต
ในช่วงบั้นปลายชีวิต หลวงปู่นาคเริ่มอาพาธด้วยโรคบวมตามข้อตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 แม้จะรักษาตัวเรื่อยมา แต่อาการก็ไม่หายขาด เพียงทุเลาเป็นครั้งคราว จนกระทั่งท่านมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2477 สิริอายุได้ 77 ปี 42 พรรษา และได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2478
แม้ท่านจะละสังขารไปนานแล้ว แต่คุณความดี บารมี และวัตถุมงคลของ หลวงปู่นาค ปุญญนาโค ยังคงเป็นที่จดจำและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป