สว.ฉัตรวรรษ ‘ขอโทษ กกต.’ ปมคำพูดแรง ชี้โทษสื่อลงข่าวไม่บอก ยันพร้อมแจงหมายเรียก สว.
รัฐสภา, 15 พฤษภาคม 2568 – พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ออกมาชี้แจงและขอโทษต่อสาธารณะกรณีที่ให้สัมภาษณ์โดยใช้คำพูดที่ถูกมองว่าก้าวร้าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยระบุว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชนในลักษณะส่วนตัว และสื่อไม่ได้แจ้งว่าจะนำไปเสนอเป็นข่าว
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวเมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา ถึงกรณีข่าวที่นำเสนอการใช้คำรุนแรงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยชี้แจงว่า การพูดคุยดังกล่าวเป็นเพียงการพูดคุยทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชนที่สนิทสนมกันแบบพี่น้อง ซึ่งอาจใช้คำพูดในลักษณะหนึ่ง แต่สื่อไม่ได้บอกว่าจะขอเป็นข่าว การแถลงข่าวต่อสาธารณะนั้นจะมีรูปแบบการพูดที่แตกต่างออกไป
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสดงความเห็นว่าสิ่งที่เห็นว่าไม่สมควรคือการที่การพูดคุยทางโทรศัพท์ถูกอัดคลิปและนำไปออกข่าวนำเสนอ หากบอกก่อนว่าจะอัดคลิปเพื่อเสนอข่าว ตนก็จะใช้คำพูดอีกแบบ แต่ถ้าเป็นการพูดคุยกันธรรมดา ก็จะพูดคุยไปตามประสา
สำหรับประเด็นที่ต้องออกมาขอโทษในวันนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า มาขอโทษที่คำพูดดังกล่าวทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าตนมีเจตนาก้าวร้าวหรือไม่เคารพองค์กร ยืนยันว่าโดยส่วนตัวไม่มีจิตใจเช่นนั้น และการแถลงข่าวทุกครั้งจะให้ความเคารพทุกองค์กรเสมอ จึงขอโทษสังคมอย่างจริงใจต่อข่าวที่เผยแพร่ไป และไม่ถือโทษโกรธผู้ที่อัดคลิป แม้จะมองว่าเป็นการผิดจริยธรรมของสื่อมวลชน
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ได้กล่าวถึงกรณีที่ตนเป็นหนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับหมายเรียกให้ไปชี้แจงต่ออนุกรรมการ กกต. โดยยืนยันความพร้อมที่จะให้ข้อมูลและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ สว. ทุกคนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายด้วยความสุจริตและโปร่งใส แต่มีข้อสังเกตในฐานะอดีตข้าราชการตำรวจว่า การเชิญบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือเป็นพยานควรมีการชี้แจงประเด็นที่จะสอบให้ชัดเจน ไม่ใช่แจ้งข้อหาในลักษณะกว้างๆ ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าจะต้องไปตอบประเด็นใดบ้างตามเอกสารที่ได้รับ
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังได้ตั้งคำถามย้อนกลับไปยังผู้ตั้งข้อกล่าวหาว่ามีประเด็นใดที่จะให้ตอบหรือไม่ พร้อมระบุว่าในเอกสารระบุว่า จะไปให้ถ้อยคำหรือไม่ไปก็ได้ และให้มีบุคคลอื่นติดตามไปด้วยได้ 1 คน ซึ่งมองว่าหากสอบกันโดยเที่ยงธรรม ควรสอบทั้ง 200 คน ไม่ใช่เลือกเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และจะมีการหารือกับ สว. คนอื่นๆ ที่ได้รับหมายเรียกเพื่อให้แนวทางการชี้แจงเป็นไปในรูปแบบเดียวกันก่อนถึงกำหนดวันที่ 19 พฤษภาคมนี้
เมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะดูแลดีเอสไอ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่าไม่ทราบและไม่ขอก้าวล่วง แต่แสดงความเห็นว่าการดำเนินการของดีเอสไอในบางเรื่องมีความไม่โปร่งใส โดยยกตัวอย่างกรณีประชาชนในจังหวัดอำนาจเจริญที่ถูกเรียกสอบเป็นพยานในคดีที่เกี่ยวกับ สว. ทำให้ สว. ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตนมองว่าเป็นการสอบสวนที่ไม่เป็นธรรมและละเมิดสิทธิเสรีภาพ จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนต่อวุฒิสภาและเห็นควรให้ยื่นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่าการสอบสวนดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน แต่เป็นการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ
ส่วนแนวทางการต่อสู้ประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องสัญญาว่าจะให้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยืนยันว่าจำเป็นต้องทราบข้อเท็จจริงจากข้อกล่าวหาก่อนว่าไปสัญญาว่าจะให้กับใคร ที่ไหน อย่างไร เพื่อให้มีประเด็นที่จะไปตอบคำถามได้ หากแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว. แบบกว้างๆ ก็ไม่รู้ว่าจะตอบประเด็นไหน ขณะนี้กำลังทำคำชี้แจงของตัวเอง และยืนยันจะชี้แจงอย่างแน่นอนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวทิ้งท้ายว่า สว. ทุกคนพร้อมให้พิสูจน์การได้มาซึ่งตำแหน่ง ยืนยันไม่ได้ไปรบกับใคร แต่ถูกกระทำฝ่ายเดียวจากข่าวที่นำเสนอออกไป ทำให้แทบจะเป็นจำเลยของสังคม แต่ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตราบใดที่ กกต. รับรองและเลขาธิการวุฒิสภารับรองให้ปฏิบัติหน้าที่