พังงา – นายวราวุธ แสงทอง รักษาการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 14 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นระยะเวลา 5 เดือน จะเป็นช่วงการปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

การปิดพื้นที่ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล และที่สำคัญคือเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นตัว รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ในช่วงระยะเวลาการปิดอุทยานฯ ในปี 2568 นี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะมีการปรับปรุงพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น สิ่งปลูกสร้าง และการจัดประชุมผู้ประกอบการการท่องเที่ยว เพื่อวางแผนและหารือถึงการบริการจัดการ การตลาด การดูแลนักท่องเที่ยว การเตรียมความพร้อมของเรือนำเที่ยว การขออนุญาต รวมถึงการเฝ้าระวังการกระทำผิดที่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังจะมีการสร้างความร่วมมือกับชุมชนและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เช่น การเก็บขยะ การลดใช้พลังงาน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

นายวราวุธ กล่าวว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาในฤดูการท่องเที่ยว พบว่ายังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เช่น ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบางรายไม่ได้ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับกฎระเบียบและข้อควรปฏิบัติในระหว่างการท่องเที่ยว ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังมีการลักลอบทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จึงได้กำหนดแนวทางการจัดการด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์กับการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งไว้ 6 แนวทางหลัก ได้แก่

1. สำรวจข้อมูลพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทางทะเล
2. พัฒนาระบบสื่อความหมายธรรมชาติที่เน้นความหลากหลายทางชีวภาพและผลกระทบจากกิจกรรมมนุษย์
3. พัฒนาและบำรุงรักษาทุ่นแนวเขตธรรมชาติหวงห้ามให้ชัดเจน
4. ดำเนินการลาดตระเวนเชิงคุณภาพครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 80 ของพื้นที่อุทยานฯ อย่างสม่ำเสมอ
5. พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด
6. จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุภัยพิบัติ รวมถึงแผนเฝ้าระวัง ป้องกัน เตือนภัย และกู้ภัยที่ได้มาตรฐาน

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้กำหนดให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็น 1 ใน 6 อุทยานแห่งชาติที่นำระบบ E-Ticket มาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวทุกคนทั้งชาวไทยและต่างประเทศจะต้องซื้อตั๋วผ่านระบบ E-Ticket พร้อมกรอกรายละเอียดตามที่กำหนด เช่น นักท่องเที่ยวคนไทยต้องยืนยันตัวตนด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนจากฐานข้อมูล ThaiID ส่วนชาวต่างประเทศต้องใช้หมายเลขหนังสือเดินทาง (Passport)

นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วผ่านระบบ E-Ticket ได้ทั้งแบบล่วงหน้า หรือซื้อในวันเดินทางมาท่องเที่ยวได้ถึงเวลา 08:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อุทยานฯ จะตรวจนับจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นครั้งสุดท้าย

สำหรับผู้ประกอบการ บริษัททัวร์ใดที่แจ้งจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ตรงกับที่ซื้อตั๋วผ่านระบบ E-Ticket หรือแจ้งสัญชาตินักท่องเที่ยวไม่ตรงกับความเป็นจริง ทางอุทยานฯ จะมีการเปรียบเทียบปรับ โดยหากกระทำผิดเป็นครั้งแรก จะปรับ 5,000 บาท ครั้งที่สองปรับ 20,000 บาท และครั้งที่สามปรับ 100,000 บาท นายวราวุธ ย้ำว่า หากมีการกระทำผิดซ้ำซาก ทางอุทยานฯ จะพิจารณาไม่อนุญาตให้ประกอบกิจการนำเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวต่อไป

มาตรการเหล่านี้มีขึ้นเพื่อยกระดับการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน