รมว.คลังสหรัฐฯ ชมข้อเสนอไทย! ‘นายกฯอิ๊งค์’ มั่นใจ ‘ทีมไทยแลนด์’ เดินถูกทาง เจรจาการค้าสดใส
กรุงเทพฯ – นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความมั่นใจในความพร้อมของ “ทีมไทยแลนด์” ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา หลังจากนายสก็อตต์ เบสเซนต์ (Mr. Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมข้อเสนอของประเทศไทยในการเจรจาทางการค้า
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อมูลที่เตรียมการไว้ทั้งหมด รวมถึงติดตามสาระสำคัญจากการประชุมการลงทุน ซาอุดีฯ-สหรัฐฯ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนายสก็อตต์ เบสเซนต์ ได้กล่าวถึงการเจรจาของหลายประเทศ ทั้งในยุโรปและเอเชีย ที่ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอเจรจากับสหรัฐฯ โดยระบุว่าการเจรจากับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศในเอเชียเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิผล
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงประเทศไทยว่า การพูดคุยทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พร้อมชื่นชมว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่นำเสนอแนวคิดริเริ่มที่โดดเด่น และคาดว่าน่าจะนำไปสู่การเจรจาที่มีประสิทธิผล โดยเปรียบเทียบพัฒนาการร่วมกับการเจรจาของประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน
นายจิรายุ กล่าวเสริมว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงผลจากการทำงานอย่างต่อเนื่องของ “ทีมไทยแลนด์” ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์การเจรจากับสหรัฐฯ โดยให้เน้นความรอบคอบ ครบถ้วน และจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเป้าหมายในการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางการค้า ส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ควบคู่กับการยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้ทันสมัย แข่งขันได้ และเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลกมากขึ้น
โฆษกฯ ระบุว่า การทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ได้มีการเตรียมการมาตั้งแต่ต้นปี ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้ารับตำแหน่ง โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่ประสานงานและผลักดันการดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามทุกประเด็นในการเตรียมความพร้อมอย่างใกล้ชิด และให้ทีมศึกษาข้อเสนอแนะของประเทศต่างๆ รวมถึงการหารือระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่นในช่วงที่ผ่านมา
ในส่วนของกรอบการเจรจา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้วางแนวทางไว้ 5 ประการสำคัญ ได้แก่:
- การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและสินค้าเกษตร: วิเคราะห์สินค้าที่ไทยขาดแคลนวัตถุดิบ และสามารถนำเข้าจากสหรัฐฯ มาเติมเต็มห่วงโซ่การผลิตในลักษณะที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน (win-win)
- การทบทวนภาษีนำเข้าของสินค้าปัจจุบัน: พิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขบางประการและบริหารโควตาให้เหมาะสม โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตภายในประเทศ
- การปรับปรุงกลไกภายในประเทศ: ลดความซ้ำซ้อนของกฎระเบียบและขั้นตอนการนำเข้าสินค้า มุ่งแก้ไขอุปสรรคที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษี (Non-Tariff Barriers) เพิ่มประสิทธิภาพระบบภายใน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและนวัตกรรม
- มาตรการคัดกรองสินค้านำเข้าอย่างรอบคอบ: ตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้ประเทศที่สามใช้ไทยเป็นฐานหลีกเลี่ยงมาตรการทางภาษีจากสหรัฐฯ
- ปรับโครงสร้างการลงทุน: โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีที่ไทยเริ่มขาดแคลนวัตถุดิบ รวมถึงส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยที่มีศักยภาพเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ มากขึ้น
นายจิรายุ ย้ำในตอนท้ายว่า นายกรัฐมนตรี คณะทีมที่ปรึกษา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีการหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ไทยมีข้อเสนอที่ดีที่สุดและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ การใช้จังหวะเวลาและข้อมูลที่เหมาะสมนี้ มั่นใจว่าจะทำให้การเจรจาเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมและการส่งออกทุกประเภทของประเทศไทยอย่างแน่นอน