ตำรวจปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด ไล่ล่า ‘ไอ้บิน ควนกุน’ แก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ลั่น ‘จับตาย’ หากขัดขืน

ตรัง – กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 60 นาย สนธิกำลังปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่บ้านเขาหลัก จังหวัดตรัง ไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องหา 4 ราย ที่ก่อเหตุฆ่าและเผานั่งยางอำพรางศพ 4 ศพ หลังพบเบาะแสเชื่อว่ากบดานในพื้นที่ป่าเขาที่คุ้นเคย พร้อมประกาศมาตรการขั้นเด็ดขาด ‘จับตาย’ หากมีการต่อสู้ขัดขืน

ความคืบหน้ากรณีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ในคดีร่วมกันก่อเหตุยิงและฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ภายในสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาสำคัญคือ นายศุภกรณ์ หรือ ‘ไอ้บิน ควนกุน’ อายุ 37 ปี และอีก 3 คน คือ นายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ หรือเถือก อายุ 36 ปี

ล่าสุด วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และ พ.ต.ต.ศิวกรณ์ แป้นไทย สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หน่วยสวาทศรีตรัง) ร่วมกับกำลังตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง, กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 รวมถึงชาวบ้านและฝ่ายปกครอง รวมกว่า 60 นาย เดินเท้าขึ้นไปยังเทือกเขาบรรทัด บริเวณบ้านเขาหลัก ตำบลน้ำผุด อำเภอเมืองตรัง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า เพื่อเร่งไล่ล่ากดดัน และติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ

การปฏิบัติการครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ (13 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ได้พบรถกระบะต้องสงสัย ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุขนย้ายล้อยางรถยนต์ที่นำไปใช้ในการเผานั่งยาง โดยรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้บริเวณหลังบ้านพ่อของนายแต้ม หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กับ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง และเป็นพื้นที่ที่ติดกับเขาหลัก จึงเป็นเหตุผลให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดน่าจะหลบหนีไปกบดานอยู่บนเทือกเขาบรรทัด

เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นขนำ ซึ่งเป็นเพิงพักที่ชาวบ้านปลูกไว้บนเทือกเขาจำนวนหลายแห่ง จากทั้งหมดประมาณ 27 ขนำ แต่เบื้องต้นยังไม่พบตัวกลุ่มคนร้าย โดยพื้นที่เขาหลักนี้ถือเป็นพื้นที่ที่ผู้ก่อเหตุมีความคุ้นชิน โดยเฉพาะนายแต้ม ซึ่งเคยพักอาศัยในพื้นที่นี้ และนายบินเองก็เคยมาอยู่ในพื้นที่นี้กับนายแต้มมาก่อน ประกอบกับข้อมูลการสืบสวนที่เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน น่าจะหลบหนีไปกบดานบนเทือกเขา จึงได้ใช้กำลังเข้าพื้นที่เพื่อปิดล้อมกดดันให้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้มีการแจกจ่ายใบปลิวพร้อมรูปภาพและข้อมูลของบุคคลตามหมายจับทั้ง 4 คน ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส หากพบเห็น สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 191

มาตรการที่สำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศอย่างชัดเจนคือ หากผู้ก่อเหตุคิดต่อสู้ขัดขืน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยการจับตายทันที อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำว่าจะปฏิบัติการครั้งนี้จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก และได้สั่งกำชับชุดปฏิบัติการให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีรายงานจากสายข่าวว่าผู้ต้องหาทุกคนมีอาวุธปืน ทั้งปืนยาวและปืนสั้น ติดตัวอยู่ด้วย

สำหรับเขาหลัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีทั้งน้ำตก ถ้ำ ศูนย์การเรียนรู้ และโฮมสเตย์ อีกทั้งผู้นำชุมชนยังมีการทำวิสาหกิจชุมชนเปิดกิจกรรมพายเรือล่องแก่ง และมีจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยว การค้นหาในพื้นที่นี้จึงไม่น่าจะมีความซับซ้อนมากนัก

นายสวัสดิ์ ขุนนุ้ย อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านเขาหลัก ให้ข้อมูลว่า หลังทราบข่าวการออกหมายจับคดีนี้ หนึ่งในผู้ต้องหาคือนายแต้ม เคยเป็นเด็กในพื้นที่มาก่อน ชาวบ้านในพื้นที่ก็ช่วยเป็นหูเป็นตา จนมีเบาะแสว่านายแต้มได้พาพวกหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ สภาพแวดล้อมภายในหมู่บ้าน ทั้งพื้นที่ภูเขาที่มีสวนยางและขนำของชาวบ้าน สามารถเป็นที่พักพิงให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ พื้นที่ป่ามีความกว้างใหญ่ถึง 2,000 ไร่ หากผู้ก่อเหตุคุ้นชินเส้นทาง ก็สามารถหลบหนีข้ามไปยังจังหวัดอื่นได้ง่าย โดยฝั่งทิศตะวันออกสามารถไปยังอำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุงได้ ส่วนทิศเหนือสามารถทะลุไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราชได้

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวกับนายแต้มว่า หากสำนึกผิดและกลับตัวได้ ก็อยากให้ใช้โอกาสนี้ในการมอบตัว พร้อมยืนยันว่านายแต้มไม่ใช่คนหัวรุนแรงมาตั้งแต่เด็ก เคยขับรถส่งนักเรียน ทำอาชีพสุจริต แต่เมื่อย้ายไปอยู่กับภรรยาที่อำเภอสิเกา แวดล้อมอาจเปลี่ยนไป และตนเองก็ไม่คาดคิดว่านายแต้มจะร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย ยืนยันว่านายแต้มไม่น่าจะมีความคิดในการตอบโต้หรือต่อสู้ตำรวจอย่างแน่นอน แต่กับผู้ต้องหาที่เหลือ ตนไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ อย่างไรก็ตาม เบาะแสที่คาดว่า 4 คนร้าย หนีขึ้นไปกบดานบนภูเขาท้ายหมู่บ้าน ไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน เนื่องจากในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นพื้นที่สีแดง (คอมมิวนิสต์) ที่เคยเกิดการปะทะกัน ทำให้ชาวบ้านมีความคุ้นชินกับสถานการณ์และรู้วิธีการอยู่อย่างปลอดภัย

ในส่วนของการปฏิบัติการอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ปล่อยแถวนำทีมกระจายกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยจุดสำคัญคือ บ้านของอดีตอาสาสมัครจังหวัดตรังรายหนึ่ง ซึ่งฐานข้อมูลของชุดทำงานพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายบิน ผู้ต้องหาสำคัญ เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นและเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก แต่ไม่พบหลักฐานความผิดใด ๆ นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจค้นที่บ้านของนายบิน ซึ่งญาติรับทราบและให้ความร่วมมือในการตรวจค้น แต่ก็ยังไม่พบผู้ต้องหาหรือหลักฐานเชื่อมโยง ส่วนอีก 3 จุดที่เหลือเป็นบ้านพักของผู้ต้องหาอีก 3 คน เจ้าหน้าที่จะเก็บหลักฐานเพิ่มเติมและเร่งติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *