กระทรวงเกษตรฯ Kick Off ‘โฉนดต้นไม้-โฉนดต้นยางพารา’ ยกระดับต้นไม้เป็นสินทรัพย์ หนุนเกษตรกรเข้าถึงแหล่งทุน สร้างรายได้คาร์บอนเครดิต
พระนครศรีอยุธยา – เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญในการยกระดับศักยภาพต้นไม้และต้นยางพาราให้เป็นสินทรัพย์ โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงฯ และผู้บริหารเข้าร่วมงาน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดเชื่อมโยงไปยัง 144 จุดทั่วประเทศ
โครงการนี้ริเริ่มขึ้นภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดยมีเป้าหมายหลักคือการพัฒนาต้นไม้และต้นยางพาราให้สามารถใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสถาบันการเงินอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดิน และเปิดโอกาสในการสร้างรายได้เสริมที่เกี่ยวข้อง เช่น การใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ และที่สำคัญคือการสร้างรายได้จากกิจกรรมคาร์บอนเครดิต
กระทรวงเกษตรฯ โดย ส.ป.ก. และ กยท. ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างละเอียด ทั้งการศึกษา กำหนดขั้นตอนและวิธีปฏิบัติ รวมถึงการพัฒนาระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมมาสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ตั้งเป้าที่จะออกโฉนดต้นยางพาราให้ได้ในพื้นที่สวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย จำนวน 11.17 ล้านไร่ ภายในแผน 2 ปีข้างหน้า และจะดำเนินการสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ควบคู่กันไป โดยประสานงานกับคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เพื่อให้สามารถออกโฉนดต้นยางได้ครบทั้ง 22 ล้านไร่ทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และมีความมั่นคงในอาชีพทำสวนยางอย่างยั่งยืน
“โฉนดสวนยางนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับต้นยางอย่างน้อยเฉลี่ยประมาณไร่ละ 27,000 บาท หากออกโฉนดได้ครบ 22 ล้านไร่ทั่วประเทศ มูลค่ารวมของต้นยางจะสูงถึง 500,000 – 600,000 ล้านบาท” นางนฤมล กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวต่อว่า โครงการนี้มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดต่อเนื่องจากการพัฒนาที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เฉพาะต้นยางพารา แต่รวมถึงต้นไม้อื่นๆ ทั้ง 58 ชนิด ซึ่งโฉนดต้นไม้เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเอกสารรับรองการมีอยู่ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ต้นไม้กลายเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์เพื่อขอสินเชื่อ หรือสร้างมูลค่าในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต
“ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศช่วยกันบอกต่อและมาขึ้นทะเบียน เพื่อที่เราจะได้เดินหน้าแจกโฉนดให้ครบตามเป้าหมาย ขอขอบคุณเกษตรกรและผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ทุกท่านที่ทำให้โครงการดีๆ นี้เกิดขึ้น” นางนฤมล กล่าวเสริม
ด้านนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า โครงการนี้ทำให้ต้นไม้ไม่จำเป็นต้องถูกโค่นอีกต่อไป เพราะมันได้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวเอง ซึ่งจะทำให้ต้นไม้บนที่ดินของเกษตรกรมีมูลค่ามหาศาลในอนาคต เกษตรกรไทยทุกคนมีโอกาสกลายเป็นมหาเศรษฐี การมองการณ์ไกลของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับต้นไม้บนที่ดินเป็นการต่อยอดที่ดีเยี่ยม
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวให้กำลังใจเกษตรกรทุกคน แม้จะไม่ได้กำกับดูแล กยท. หรือ ส.ป.ก. โดยตรง แต่ในฐานะรัฐมนตรีพี่น้องในกระทรวงเกษตรฯ ขอร่วมยินดีกับเกษตรกรที่ได้รับมอบโฉนดในวันนี้
สำหรับการจัดงาน Kick Off ในครั้งนี้ มีการมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารารวมจำนวนกว่า 11,620 ฉบับ นอกจากนี้ ยังมีพิธีลงนามแสดงเจตจำนงระหว่าง ธ.ก.ส. , ส.ป.ก. และ กยท. เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้เป็นแหล่งทุนใหม่สำหรับเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม