กรุงเทพมหานคร – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขยายการแจกเงินไปยังกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี ตามที่เคยมีกระแสข่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในภาพรวม รวมถึงการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการแจกเงินให้กับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จำนวนประมาณ 2.7 ล้านคนนั้น จะต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาหลังจากนั้น

“การแจกเงิน 10,000 ในรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ขอให้รอข้อสรุปภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจจะดีกว่า เพราะเราจะต้องดูภาพรวมในช่วงเวลาของสถานการณ์เศรษฐกิจ และงบประมาณของโครงการด้วย” นายเผ่าภูมิ กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า รัฐบาลจะใช้เงินทุกบาทอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด การพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจะไม่เจาะจงเป็นรายโครงการ แต่จะมองในภาพรวมแบบ Macro เพื่อให้การใช้งบประมาณและมาตรการต่างๆ ตอบสนองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความเปลี่ยนแปลงสูงและปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้

นายเผ่าภูมิ ยอมรับว่า รัฐบาลทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายทางการค้าของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีแนวโน้มผ่อนคลายลงในบางมิติ แต่ความไม่แน่นอนยังคงสูงและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้รัฐบาลต้องระมัดระวังและบริหารจัดการเศรษฐกิจในทุกมิติ ทั้งนโยบายและงบประมาณ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับข้อท้วงติงจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มองว่าขณะนี้ไม่ควรออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคด้วยการแจกเงินนั้น นายเผ่าภูมิ ชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในหลายมิติ ไม่ได้มองเพียงแค่การลงทุน แต่จะบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจให้มีความสมดุลและ “กลมกล่อม” โดยจะพิจารณาทั้ง การบริโภค การลงทุน การส่งออก การบริหารความเสี่ยง และการกระตุ้นการลงทุนภาครัฐ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะถูกนำมาหารืออย่างละเอียดในการประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมาถึง