เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้บริโภครายหนึ่งโพสต์ภาพเมนู ‘ข้าวไข่ดาว 2 ฟอง’ ที่สั่งผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ในราคา 65 บาท พร้อมตั้งคำถามถึงความสมเหตุสมผลของราคา ทำให้เกิดการถกเถียงและมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นอธิบายถึงปัจจัยเบื้องหลังราคาดังกล่าว

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สมาชิกรายหนึ่งในกลุ่มโซเชียลมีเดียชื่อดัง ได้โพสต์ภาพจานข้าวที่ประกอบด้วยข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาว 2 ฟอง พร้อมซอสปรุงรส พร้อมระบุว่า ตนเองได้สั่งเมนูนี้ผ่านแอปพลิเคชันส่งอาหาร และมีราคาอยู่ที่ 65 บาท เธอแสดงความสงสัยว่าปกติแล้วไม่ค่อยได้ใช้บริการแอปฯ บ่อยนัก แต่ในวันดังกล่าวที่ฝนตก จึงตัดสินใจใช้บริการ และแม้จะไม่ได้ติดใจราคาเมนูอื่นๆ มากนัก แต่สำหรับ ‘ข้าวไข่ดาว’ ในราคา 65 บาท ทำให้เธออดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ราคานี้ถือว่าปกติหรือไม่?

โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว และมีสมาชิกในกลุ่มจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคา 65 บาท สำหรับข้าวไข่ดาว 2 ฟอง ที่สั่งผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรีนั้น เป็นราคาที่สมเหตุสมผล และสะท้อนถึงต้นทุนแฝงต่างๆ ที่ผู้บริโภคอาจมองข้ามไป

หลายคอมเมนต์ได้ร่วมกันแจกแจงต้นทุนที่ร้านอาหารต้องแบกรับ ดังนี้:

• ต้นทุนวัตถุดิบ: แม้จะเป็นไข่ไก่และข้าว แต่ต้นทุนเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงและสูงขึ้น
• ต้นทุนดำเนินงานหน้าร้าน: ค่าน้ำมันสำหรับทอด ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าแรงงาน ค่าบรรจุภัณฑ์ (กล่องข้าว ช้อนส้อม ถุง) ค่าซอสปรุงรส
• ค่าธรรมเนียมแอปพลิเคชัน (Gross Profit หรือ GP): นี่คือปัจจัยสำคัญที่หลายคนเน้นย้ำ โดยแอปพลิเคชันส่งอาหารส่วนใหญ่จะหักค่าธรรมเนียมจากร้านค้าในอัตราที่ค่อนข้างสูง เฉลี่ยประมาณ 30-40% จากยอดขาย ทำให้รายได้ที่ร้านค้าได้รับจริงต่อออเดอร์นั้นลดลงไปอย่างมาก
• ต้นทุนแฝงอื่นๆ: ค่าเช่าร้าน ค่าไฟฟ้า ค่าจัดการต่างๆ

ผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ระบุว่า หากคำนวณต้นทุนทั้งหมดแล้ว เมื่อหักค่า GP ที่จ่ายให้แอปพลิเคชันออกไป กำไรที่ร้านค้าได้รับจากข้าวไข่ดาวจานนี้อาจเหลือน้อยมาก บางคนถึงกับลองคำนวณคร่าวๆ ว่า ร้านอาจจะเหลือกำไรจริงๆ ไม่ถึง 10 บาทต่อจานด้วยซ้ำ

นอกจากปัจจัยด้านต้นทุนแล้ว ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นอีกหลายรายที่มองในมุมของ ‘ความสะดวกสบาย’ และ ‘บริการ’ การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันคือการแลกเงินกับความสะดวกสบายที่ไม่ต้องออกไปซื้อเอง หรือไม่ต้องทำอาหารเอง โดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ การจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อความสะดวกนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ หากเลือกที่จะใช้บริการนี้

บางคอมเมนต์ยังมาจากประสบการณ์ตรงของผู้ประกอบการร้านอาหารที่ใช้บริการแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ซึ่งต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ค่าธรรมเนียมที่แอปฯ หักนั้นสูงมาก และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้องตั้งราคาอาหารในแอปฯ ให้สูงกว่าราคาที่ขายหน้าร้าน เพื่อให้ร้านยังคงอยู่ได้และมีกำไรพอที่จะดำเนินกิจการต่อไป

โดยสรุปแล้ว แม้ข้าวไข่ดาวจะดูเป็นเมนูง่ายๆ ที่มีต้นทุนวัตถุดิบไม่สูงเมื่อทำเองที่บ้าน แต่การสั่งผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรีนั้นมีต้นทุนแฝงอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้บริโภคต้องเข้าใจ โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมที่ร้านต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันราคาอาหารในแอปฯ ให้สูงกว่าปกติ การถกเถียงนี้จึงเป็นเหมือนการเปิดมุมมองให้เห็นถึงกลไกราคาในยุคดิจิทัล และทำให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่ร้านอาหารต้องเผชิญมากขึ้น.