กรมควบคุมโรค เผยยอดผู้ป่วย ‘โควิด-19’ พุ่งแรงหลังสงกรานต์ แตะ 7 หมื่นราย ยันอัตราป่วยตายต่ำ แต่เตือนเฝ้าระวัง พร้อมอัปเดตสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-แอนแทรกซ์
กรุงเทพฯ – วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค แถลงข่าวอัปเดตสถานการณ์โรคสำคัญในประเทศไทย ทั้งโรคแอนแทรกซ์ โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด-19 โดยยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์
สถานการณ์โควิด-19 หลังสงกรานต์พุ่ง แต่ป่วยตายยังต่ำ
พญ.จุไร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 14 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมจำนวน 71,067 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 19 ราย โดยยอมรับว่ายอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะภายหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากข้อมูลวันที่ 1-10 เมษายน มีผู้ป่วยประมาณ 12,505 ราย แต่ภายหลังสงกรานต์ พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 หมื่นราย และข้อมูลปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นราย
อย่างไรก็ตาม พญ.จุไร ย้ำว่าแม้ยอดผู้ป่วยจะสูงขึ้น แต่อัตราการป่วยตาย (Case Fatality Rate: CFR) ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ที่ 0.03% ซึ่งสูงกว่าอัตราป่วยตายของโรคไข้หวัดใหญ่เล็กน้อย (0.01%) ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (คิดเป็นร้อยละ 84 ของผู้เสียชีวิต) และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย มักพบอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบ สายพันธุ์ที่พบมากที่สุดยังคงเป็นสายพันธุ์ XEC ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายเชื้อได้ดี แต่ไม่ได้ก่อโรครุนแรง
พญ.จุไร เน้นย้ำให้ประชาชนเฝ้าระวัง สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ ควร สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ
อัปเดตสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่และแอนแทรกซ์
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2568 พบผู้ป่วยสะสมค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 14 พฤษภาคม มีผู้ป่วยสะสม 328,103 ราย และเสียชีวิต 33 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี แต่การเสียชีวิตพบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง วัณโรคปอด ผู้พิการทางสมอง รวมถึงผู้ที่ไม่ได้รับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ที่พบมากคือ A H1N1 รองลงมาคือ สายพันธุ์ B และ A H3N2 สถานการณ์หลังสงกรานต์มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและมีแนวโน้มลดลง ขอเชิญชวนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้จนถึงเดือนสิงหาคมนี้
ส่วนสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ หลังพบผู้เสียชีวิตที่ จ.มุกดาหาร เมื่อปลายเดือนเมษายน ปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิด 636 ราย ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม ซึ่งพ้นระยะฟักตัวสำหรับการติดเชื้อทางผิวหนังและทางเดินอาหารแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังแอนแทรกซ์ในปอดซึ่งมีระยะฟักตัวได้นานถึง 2 เดือน จังหวัดอื่นๆ พบผู้เข้าข่ายสงสัย 15 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด พญ.จุไร เตือนให้ประชาชนระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มีที่มา หรือสัตว์ป่วยตาย และต้องปรุงสุกเท่านั้น ผู้ที่ชำแหละสัตว์ควรสวมถุงมือป้องกัน หากมีประวัติสัมผัสสัตว์ที่ตายและมีอาการทางผิวหนังหรือระบบทางเดินอาหารให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติทันที