เสียหายหนัก! เปิดใจเจ้าของร้านหมูกระทะ เล่านาทีถูกเบี้ยวจอง 25 ที่นั่ง ไม่มาตามนัด

เสียหายหนัก! เปิดใจเจ้าของร้านหมูกระทะ เล่านาทีถูกเบี้ยวจอง 25 ที่นั่ง ไม่มาตามนัด

อุทัยธานี – เรื่องราวสุดช้ำใจของเจ้าของร้านหมูกระทะเล็กๆ ในจังหวัดอุทัยธานี กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังจากถูกลูกค้าโทรมาจองโต๊ะสำหรับกลุ่มใหญ่ถึง 25 คน แต่สุดท้ายกลับเบี้ยว ไม่มาตามนัดและติดต่อไม่ได้ ส่งผลให้ร้านต้องแบกรับความเสียหายทั้งวัตถุดิบและกำลังใจ

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Arinchaya Jintakedkarn ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน “รวมญาติหมูกระทะ” ตั้งอยู่ที่เกาะเทโพ จังหวัดอุทัยธานี ได้ออกมาโพสต์เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา บรรยายถึงความผิดหวังและเสียใจที่ร้านต้องจัดเตรียมทุกอย่างไว้รอคณะลูกค้ากลุ่มใหญ่ถึง 25 คน แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครมาตามนัดและไม่สามารถติดต่อผู้จองได้เลย ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และได้รับความเห็นใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.อริญชญา อายุ 34 ปี เจ้าของร้านรวมญาติหมูกระทะ เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ประมาณช่วงบ่าย 2 โมง ได้มีโทรศัพท์จากบุคคลหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี ติดต่อเข้ามาเพื่อขอจองโต๊ะสำหรับลูกค้าจำนวน 25 คน และสอบถามว่าจะต้องจองกี่โต๊ะ เธอจึงแนะนำไปว่าประมาณ 5 โต๊ะ ลูกค้าคนดังกล่าวก็ตกลงตามนั้น พร้อมทั้งระบุว่าจะสั่งชุดหมูกระทะขนาดใหญ่ไว้ก่อนในแต่ละโต๊ะ และจะสั่งเพิ่มอีกเมื่อเดินทางมาถึง ทำให้เธอและครอบครัวรู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากร้านของเธอเป็นร้านเล็กๆ ไม่ค่อยมีลูกค้าหมู่คณะขนาดใหญ่เช่นนี้เข้ามาบ่อยนัก

เมื่อรับทราบการจองแล้ว น.ส.อริญชญา ไม่ได้รอช้า รีบออกไปหาซื้อวัตถุดิบสดใหม่เพิ่มเติมจากที่เตรียมไว้ตามปกติทันที เพราะของที่มีในร้านไม่เพียงพอต่อจำนวนลูกค้าถึง 25 คน เธอให้เหตุผลว่าช่วงนี้เป็นฤดูฝน จึงไม่กล้าซื้อวัตถุดิบมาสต็อกไว้เยอะ เพราะกลัวจะเน่าเสีย ประกอบกับแต่ละวันลูกค้าที่มาใช้บริการมีไม่มากนัก บางวันอาจมีแค่ 1-2 โต๊ะเท่านั้น

หลังจากซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมเรียบร้อย เธอก็นำกลับมาที่ร้าน เพื่อช่วยกันจัดเตรียมทุกอย่าง ทั้งการจัดโต๊ะ เตรียมเตา และจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ไว้รอต้อนรับลูกค้าตามเวลาที่นัดหมายด้วยความตั้งใจ

แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็น และใกล้ถึงเวลาที่ลูกค้าแจ้งว่าจะเดินทางมาถึง น.ส.อริญชญา พยายามโทรศัพท์กลับไปยังหมายเลขที่ใช้โทรมาจอง เพื่อสอบถามเวลาที่แน่ชัด จะได้เริ่มก่อเตารอไว้ให้พร้อม แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ เธอเริ่มรู้สึกผิดสังเกตเมื่อเวลายิ่งผ่านไป ลูกค้าก็ยังไม่เดินทางมาถึงร้านเลยแม้แต่คนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ฝนก็เริ่มตั้งเค้าและตกลงมาอย่างหนัก เธอจึงตัดสินใจโทรซ้ำอีกหลายครั้ง แต่คราวนี้เบอร์ดังกล่าวกลับปิดเครื่องไปแล้ว ทำให้เธอแน่ใจทันทีว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว

ด้วยความเสียใจและผิดหวังอย่างที่สุด เธอและลูกสาวต้องช่วยกันเก็บโต๊ะและวัตถุดิบต่างๆ ที่เตรียมไว้ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา ความรู้สึกในตอนนั้นคือ นอกจากจะเสียแรง เสียเวลาในการจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว ยังต้องมาแบกรับภาระต้นทุนวัตถุดิบที่ซื้อมาเพิ่ม ซึ่งเสียหายไปไม่น้อยเลยทีเดียว

ในวันรุ่งขึ้น (วันที่ 13 พฤษภาคม) น.ส.อริญชญา จึงตัดสินใจเดินทางไปที่สถานีตำรวจ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้ต้องการดำเนินคดี แต่เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพรายนี้นำวิธีการแบบเดียวกันไปหลอกลวงร้านค้าหรือผู้ประกอบการรายอื่นอีก

ท้ายสุด น.ส.อริญชญา ได้ฝากถึงผู้ที่โทรมาหลอกลวงว่า “ในฐานะร้านเล็กๆ อยากฝากถึงผู้ที่โทรมาหลอกว่าถึงร้านของเราจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ทุกอย่างมีต้นทุน หากติดธุระจริงๆ ก็ควรโทรกลับมาบอก ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดความเสียหายและเสียความรู้สึกแบบนี้” เธอยังได้กล่าวขอบคุณทุกข้อความให้กำลังใจจากชาวโซเชียลที่ส่งมาถึงร้านเล็กๆ ของเธอ ซึ่งช่วยเป็นพลังและกำลังใจให้เธอมีแรงใจสู้ต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *