สบส. เปิดเกณฑ์ใหม่รับรองแหล่งฝึก ‘สปา-นวด-ดูแลผู้สูงอายุ’ ยกระดับบุคลากร ดันไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพโลก
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเดินหน้ายกระดับมาตรฐานบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ ด้วยการออกหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อรับรองสถานประกอบการและสถาบันการศึกษาที่ประสงค์จะเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติสำหรับหลักสูตรด้านสุขภาพสำคัญ ได้แก่ สปา การนวดเพื่อสุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง
ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า ธุรกิจสถานประกอบการเพื่อสุขภาพของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสปาและการนวดไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและถือเป็นหนึ่งใน Soft Power สำคัญที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักลงทุน
“การยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ภาคปฏิบัติให้แก่ผู้ให้บริการรายใหม่ เพื่อให้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาด จึงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนและขยายตลาดอุตสาหกรรมบริการสุขภาพไทยไปสู่ระดับโลก” ทพ.อาคม กล่าวเน้นย้ำ
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว สบส. จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานสำหรับแหล่งฝึกปฏิบัติของหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ โดยครอบคลุม 6 ด้านสำคัญ ดังนี้:
- สถานที่: ต้องมีความเหมาะสม เอื้อต่อการฝึกปฏิบัติ และต้องได้รับการอนุญาตจาก สบส. อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- อุปกรณ์: ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และเพียงพอต่อการฝึกปฏิบัติในทุกขั้นตอนของหลักสูตร
- กิจกรรมบริการ: ต้องมีการให้บริการจริงที่เปิดโอกาสให้นักเรียนผู้เข้ารับการฝึกได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานจริง ซึ่งต้องสอดคล้องกับเนื้อหาหลักสูตร โดยแบ่งเป็น 2 ด้านหลัก คือ
- ด้านสปาและนวดเพื่อสุขภาพ: ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจร่างกายเบื้องต้น การฝึกปฏิบัตินวดไทย เทคนิคการนวดแบบต่างๆ การใช้สมุนไพรประกอบการนวด และขั้นตอนการให้บริการสปาครบวงจร
- ด้านการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง: ครอบคลุมการดูแลด้านอาหารและโภชนาการที่เหมาะสม การจัดกิจกรรมนันทนาการ การปรับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย การใช้ภูมิปัญญาไทยและการแพทย์ทางเลือกในการดูแล รวมถึงการคัดกรองเบื้องต้น การฟื้นฟูสมรรถภาพ และกิจกรรมกายภาพบำบัด
- อาจารย์ผู้ควบคุม/วิทยากร: ต้องผ่านการรับรองและมีประสบการณ์ตรงในวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์ แพทย์แผนไทย พยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือวิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ขอบเขตและข้อกำหนดในการฝึกปฏิบัติ: กำหนดให้ผู้เรียนต้องฝึกปฏิบัติครบตามจำนวนชั่วโมงที่โครงสร้างหลักสูตรกำหนด โดยมีอาจารย์หรือวิทยากรประเมินผลการปฏิบัติงานทุกครั้ง มีการกำหนดช่วงเวลาการฝึกที่ชัดเจน และมีนโยบายด้านความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองทั้งผู้เรียนและผู้รับบริการ
- การประเมินผล: ต้องมีระบบการประเมินผลที่มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และครอบคลุมการประเมินทั้งด้านทักษะวิชาชีพ ทัศนคติในการให้บริการ และจริยธรรม
ทพ.อาคม กล่าวทิ้งท้ายว่า หลักเกณฑ์มาตรฐานเหล่านี้เป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพของโลก (Medical Hub) ได้อย่างแข็งแกร่ง จึงขอเชิญชวนสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั้งกิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ และสถานดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่สนใจร่วมเป็นแหล่งฝึกภาคสนามเพื่อผลิตบุคลากรคุณภาพ ป้อนเข้าสู่ตลาดสุขภาพไทย
ผู้ประกอบการและสถาบันการศึกษาที่สนใจ สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (https://hemd.hss.moph.go.th) หรือติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 0 2193 7000 ต่อ 18411 ในวันและเวลาราชการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป