“ภูมิธรรม” ร่วมประชุมระดับสูงที่เยอรมนี หารือ “อนาคตการรักษาสันติภาพโลก” ย้ำต้องปฏิรูปให้ทันสถานการณ์
เบอร์ลิน, สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี – เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กระทรวงการต่างประเทศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะผู้แทนระดับสูงของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย พลเอก สนิทชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และนายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมระดับสูงที่จัดขึ้น ณ ที่ทำการกระทรวงฯ
การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางและแนวปฏิบัติในการรักษาสันติภาพทั่วโลก โดยได้มีการหารือในหัวข้อหลักที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่งในบริบทของสถานการณ์โลกปัจจุบันและอนาคต เริ่มต้นด้วยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “การรักษาสันติภาพในอนาคต” (Future of Peacekeeping) ซึ่งเป็นการมองภาพรวมและความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น
ตามมาด้วยการเจาะลึกในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับและพัฒนาภารกิจรักษาสันติภาพ ในหัวข้อ “การปฏิรูปการรักษาสันติภาพเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” (Peacekeeping Reform: More Effective and Safer Peacekeeping) ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกลไกและวิธีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติภารกิจสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดในการบรรลุเป้าหมาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เปิดเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนมุมมองในวงกว้างจากผู้แทนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ภายใต้หัวข้อ “มุมมองระดับโลกเกี่ยวกับการรักษาสันติภาพในอนาคต” (Global Perspectives on The Future of Peacekeeping) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและประสบการณ์ที่หลากหลายจากนานาประเทศ ซึ่งจะช่วยให้การกำหนดทิศทางและนโยบายในการรักษาสันติภาพในอนาคตมีความรอบด้านมากยิ่งขึ้น
ประเด็นสำคัญที่ได้จากการหารือและเป็นทิศทางร่วมกันของผู้เข้าร่วมประชุมคือ ความเห็นพ้องต้องกันว่า อนาคตของการรักษาสันติภาพนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปฏิรูปในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านของลักษณะภารกิจที่ต้องมีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน และคาดเดาได้ยากในปัจจุบัน เพื่อให้ภารกิจสามารถบรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความยืดหยุ่นแล้ว ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่จะขับเคลื่อนให้การรักษาสันติภาพในอนาคตประสบความสำเร็จ ได้แก่ การจัดสรรทรัพยากรที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณ กำลังพลที่มีความพร้อม การฝึกอบรมที่เหมาะสม และยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงการได้รับการสนับสนุนทางการเมืองอย่างแข็งแกร่งจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติและประชาคมโลก ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการปฏิบัติภารกิจภายใต้กรอบของสหประชาชาติ
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในช่วงบ่าย คณะของนายภูมิธรรม เวชยชัย ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ณ กระทรวงกลาโหม สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในโอกาสนี้ ยังมีการจัดแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ทันสมัยของกองทัพเยอรมนี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงศักยภาพด้านการป้องกันประเทศของเยอรมนี แต่ยังเป็นการเน้นย้ำและส่งเสริมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในระดับทวิภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การประสานงานและการแลกเปลี่ยนที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในอนาคต.