นครปฐม – วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการขับเคลื่อนนโยบาย “สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์” ซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการลักลอบจำหน่ายสินค้าเถื่อนอย่างจริงจัง

นายเผ่าภูมิ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าในการปราบปรามบุหรี่เถื่อน ซึ่งยังคงมีการลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดน และกระจายไปจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ โดยสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 ได้รับรายงานว่า มีขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมายจากพื้นที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านช่องทางธรรมชาติในลักษณะที่เรียกว่า “กองทัพมด”

“กองทัพมด” เป็นวิธีการลำเลียงสินค้าที่อาศัยการนำเข้ามาในปริมาณน้อยๆ แต่ทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ แม้แต่ละครั้งจะมีปริมาณไม่มาก แต่เมื่อรวมกันแล้วก็สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและภาษีของรัฐเป็นจำนวนมหาศาล” นายเผ่าภูมิกล่าว

จากการสืบสวนและเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เจ้าหน้าที่สรรพสามิตสามารถยึดของกลางบุหรี่ที่มิชอบด้วยกฎหมายได้เป็นจำนวนมากถึง 35,250 ซอง แบ่งเป็นบุหรี่ไทยสำหรับส่งออก (FOR EXPORT ONLY) ซองอ่อน 30,000 ซอง, บุหรี่ไทยสำหรับส่งออก ซองแข็ง 5,150 ซอง และบุหรี่ต่างประเทศ 100 ซอง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางภาษีและค่าปรับรวมทั้งสิ้น 4,707,894.48 บาท ซึ่งถือเป็นการจับกุมครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปราบปรามสินค้าเถื่อน

นายเผ่าภูมิ ยังได้กล่าวถึงเส้นทางการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนที่มีอยู่ 2 รูปแบบหลักในปัจจุบัน คือ

1. การลักลอบนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศผ่านทางไปรษณีย์จากประเทศเพื่อนบ้าน
2. การลักลอบนำเข้าบุหรี่ในประเทศ (ที่ผลิตเพื่อส่งออกแต่ถูกนำกลับเข้ามา) ผ่านช่องทางธรรมชาติในลักษณะกองทัพมด ซึ่งมักมีการรวบรวมไว้ในปริมาณมาก ก่อนจะลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศเพื่อนำออกจำหน่าย

เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นายเผ่าภูมิ ได้สั่งการให้สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด ขับเคลื่อนภารกิจภายใต้นโยบาย “สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์” อย่างจริงจัง โดยเน้นย้ำให้:

• ตรึงกำลังเข้มข้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะตามแนวชายแดนด้านตะวันตก ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการลักลอบนำเข้า โดยกำหนดจุดเฝ้าระวังพิเศษ 5 จุด ได้แก่ บริเวณด่านบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง, จุดนำเข้าก๊าซธรรมชาติ บ้านอิต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ, จุดผ่อนปรนทางการค้าชั่วคราว ด่านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี, และช่องทางบ้านต้นยาง อำเภอสังขละบุรี
• ทำงานเชิงรุกและประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และศุลกากร เพื่อบูรณาการกำลังในการสกัดกั้นตั้งแต่ต้นทาง
• สืบสวนขยายผล เพื่อจับกุมเครือข่ายและผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบนำเข้า

ในตอนท้าย นายเผ่าภูมิ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาคที่ 7 และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่จนสามารถจับกุมบุหรี่เถื่อนล็อตใหญ่ได้ในครั้งนี้ พร้อมทั้งกำชับให้ทำงานอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อปราบปรามสินค้าเถื่อนให้สิ้นซาก และกำจัดให้ถึงต้นตอของขบวนการอย่างเด็ดขาดต่อไป.