กรุงเทพฯ – ตำรวจสืบสวนนครบาล 3 ขยายผลจับกุม ‘บังยุบ’ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด เผยเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นโกดังเก็บยาให้กับเครือข่ายใหญ่ ยึดของกลางได้จำนวนมาก ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และยาอีรูปโดเรมอน สารภาพสิ้น นำเงินที่ได้จากการค้ายา โดยเฉพาะ ‘ขนมโดเรมอน’ เม็ดละ 300 บาท ไปส่งเสียภรรยาที่ถูกจับกุมในคดียาเสพติดและถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และคณะ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนนครบาล 3 นำโดย พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รองผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และ พ.ต.ต.สมมาตร คงทอง สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ร่วมกันทำการจับกุม นายวิษณุ (สงวนนามสกุล) หรือ “บังยุบ” อายุ 30 ปี ได้ที่บริเวณบ้านเช่าภายในซอยประชาร่วมใจ 68 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่สืบนครบาล 3 ได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ เพื่อนำมาซุกซ่อนและกระจายต่อในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยพบข้อมูลว่า นายวิษณุ หรือ “บังยุบ” เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นโกดังเก็บยาเสพติดให้กับเครือข่ายดังกล่าว และยังมีหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 138/2568 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดลอดภัยของประชาชนโดยทั่วไป และ สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด”

เหตุการณ์ตามหมายจับดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา นายวิษณุ ได้ร่วมกับเครือข่ายขนยาบ้าจำนวน 20 กระสอบ รวมประมาณ 3,980,000 เม็ด มาจาก ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย และนำมาซุกซ่อนไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการจับกุมผู้ร่วมขบวนการ รวมถึง น.ส.อรกานต์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นภรรยาของ นายวิษณุ ส่วน นายวิษณุ สามารถวิ่งหลบหนีไปได้ ก่อนจะมาเช่าบ้านพักซ่อนตัวและใช้เป็นที่เก็บยาเสพติดอยู่ในซอยประชาร่วมใจ 68

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 3 ได้ติดตามมาถึงบ้านพักดังกล่าว และพบ นายวิษณุ ขณะกำลังจะขับรถกระบะออกจากบ้าน จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมและขอทำการตรวจค้น ทั้งภายในรถและภายในบ้านพัก ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดและของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย:

• ยาบ้า บรรจุถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 1,840 เม็ด
• ยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาวขุ่น บรรจุถุงพลาสติกใส น้ำหนักประมาณ 190 กรัม
• ยาอี ชนิดเม็ด ปั้มลายรูปโดเรมอน สีครีม บรรจุถุงพลาสติกใส จำนวน 525 เม็ด
• เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง

จากการสอบสวน นายวิษณุ หรือ “บังยุบ” ให้การยอมรับว่า เช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อใช้เป็นโกดังเก็บยาเสพติดให้กับเครือข่าย โดยยาเสพติดส่วนใหญ่ได้ถูกกระจายออกไปหมดแล้ว ส่วนของกลางที่ตรวจพบเป็นส่วนที่ตนเองเก็บไว้เพื่อแบ่งขายให้กับลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะยาอี หรือที่กลุ่มผู้ค้ายาเรียกกันว่า “ขนม” ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดปั้มลายรูปโดเรมอน เป็นที่ต้องการของตลาดและขายดีมาก โดยตนเองจำหน่ายในราคาเม็ดละ 300 บาท

เงินที่ได้จากการขายยาเสพติดทั้งหมด นายวิษณุ ยอมรับว่า นำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และส่วนหนึ่งต้องนำไปใช้ส่งเสียให้กับ น.ส.อรกานต์ ภรรยาที่ถูกจับกุมในคดียาเสพติดที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยต้องให้เพื่อนร่วมเครือข่ายเป็นผู้ไปเยี่ยมและนำเงินไปให้ เนื่องจากตนเองยังอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับ การจับกุมครั้งนี้ตนเองไม่สามารถหลบหนีได้เหมือนครั้งก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 3 ได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้ทั้งหมด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายวิษณุ ในความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์, ยาอี หรือเมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะทำการประสานงานกับ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย เพื่อให้อายัดตัวผู้ต้องหาตามหมายจับเดิมต่อไป