ชลบุรี – เกิดเหตุการณ์ระทึกที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลังฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรง ทำให้ต้นตาลขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนต้นอยู่บริเวณริมถนนเลียบชายทะเล ด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้หักโค่นลงมาทับสายไฟฟ้าแรงสูงและร้านค้าบริเวณใกล้เคียง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างนานนับชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเร่งเข้าพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ไขสถานการณ์

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีเหตุต้นตาลขนาดใหญ่ล้มทับสายไฟและร้านค้า สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุบริเวณถนนเลียบชายทะเล หมู่ 2 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ในที่เกิดเหตุ พบ พ.ต.อ. คมสรร คำตุ่นแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้เดินทางมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งการสัญจรถูกกีดขวางโดยต้นตาลขนาดความยาวประมาณ 20-25 เมตร และมีน้ำหนักมากถึงหลายร้อยกิโลกรัม ต้นตาลดังกล่าวได้หักโค่นขวางถนน ก่อนจะล้มพาดทับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เสาไฟฟ้าบางส่วนหักโค่น และร้านค้าขายอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายร้าน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ, เทศบาลเมืองสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ได้ระดมกำลังเข้าให้การช่วยเหลือ โดยนำเลื่อยยนต์มาตัดแยกชิ้นส่วนต้นตาลขนาดใหญ่ออกเป็นท่อนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่

กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ ได้ออกประกาศแจ้งเหตุฉุกเฉินและจำเป็นต้องดำเนินการดับกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากต้นตาลได้ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงขาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบจ่ายไฟฟ้าในบริเวณกว้าง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ ได้แก่ สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ, สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ, สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ, ที่ว่าการอำเภอสัตหีบ, กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2, กิจการรับรองสัตหีบ และศูนย์สมุทรกีฬา ทำให้หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้นานนับชั่วโมง

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่ฝนตกลมแรงและต้นตาลกำลังจะหักโค่นลงมาทับสายไฟและร้านค้าหน้าโรงพักไว้ได้ ซึ่งภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของสภาพอากาศในขณะนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต้นตาลบริเวณดังกล่าว ถือเป็นต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุยืนยาวคู่กับอำเภอสัตหีบมานานเกือบหนึ่งศตวรรษ จากการสังเกตการณ์ คาดว่าต้นตาลต้นนี้น่าจะยืนต้นตายมาสักระยะหนึ่งแล้ว และมีโพรงกลวงอยู่ภายในลำต้น เมื่อฝนตกหนักทำให้น้ำไหลเข้าไปสะสมในโพรง ทำให้ลำต้นมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับมีลมกระโชกแรง จึงไม่สามารถต้านทานน้ำหนักและแรงลมได้ สุดท้ายจึงหักโค่นลงมาในที่สุด

นับเป็นความโชคดีอย่างยิ่งที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้คนสัญจรไปมาบริเวณดังกล่าวอย่างหนาแน่น หากต้นตาลโค่นลงมาในช่วงเวลาดังกล่าว อาจมีประชาชนได้รับบาดเจ็บได้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงความเสียหายต่อเสาไฟฟ้าและร้านค้า ซึ่งทางเทศบาลเมืองสัตหีบ จะได้ประสานงานลงพื้นที่เพื่อสำรวจตรวจสอบต้นตาลเก่าแก่บริเวณริมชายทะเลตลอดแนว เพื่อประเมินสภาพและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ต้นตาลหักโค่นล้มลงมาสร้างความเสียหายหรือเป็นอันตรายต่อประชาชนอีกในอนาคต